เกิดความสงสัยในช่วงที่มีกระแสข่าวของ ไลฟ์โค้ช ที่บอกว่าเอาโควิทมาเป็นโอกาส ถ้าทำไม่ได้อาจจะเป็นเพราะเรากระจอก
ซึ่งโดนกระแสตีกลับอย่างแรงจากสังคม Twitter ซึ่งผมนั้นเข้าไปดูคลิปยาวๆ ซึ่งก็เห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้าง ตามประสาของคนทั่วไปครับ
การที่ไลฟ์โค้ชแนะนำว่าทำไมไม่ปรับตัวทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเท่าที่ดูแล้วก็มันเป็นมุมของบุคคลคนนั้นเท่านั้นเองครับ เขาทำอาชีพนักพูด เขาก็จะแนะนำในมุมนั้นได้เพราะว่าเขาใช้ชีวิตและหาเงินแบบนั้น ซึ่งเป็นอาชีพที่อยู่ในโลกออนไลน์
แต่ว่าต้องมองถึงความแตกต่าง ถ้าทุกคนหันไปทำอาชีพเดียวกับเขาหมดมันเป็นไปได้ไหมแล้วมูลค่าตลาดมันสมดุลกันหรือเปล่า?หรือต่อให้ทุกคนเข้าโลกออนไลน์หมด แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่ามันจะเป็นเส้นทางที่เหมาะกับทุกคนหรือเปล่า
ถ้าบางคนแค่มีความสุขกับการขายหมูปิ้งหน้าโรงเรียนหละ หรือบางคนไม่เหมาะกับโลกสเมือนจริงหละ เขาอาจจะเหมาะกับโลกที่ิเป็นออฟไลน์มากกว่าหละ?
ซึ่งผมไม่คิดว่าออนไลน์จะเหมาะกับทุกๆคน เช่นเดียวกันกับศาสนาที่เรานับถือ ที่เราเชื่อ ว่ามันดียังมีหลายๆคนที่นับถือศาสนาที่ต่างออกไปเลยครับ
ออนไลน์อาจจะเป็นทางรอดในวันเวลานี้ ที่เห็นชัดที่สุด แต่ผมเชื่อว่าออนไลน์ไม่ใช่ทางรอดเดียวแน่ๆครับ
ออนไลน์อาจะเป็นทางรอดแต่อาจจะไม่ใช่ทางที่ใช่สำหรับเรา
คนที่ยังผ่านวิกฤตหรือกับวิกฤตตอนนี้ไม่ได้ ไม่ใช่คนกระจอกหรอกครับ ถ้าเขามีเป้าหมายที่ต้องการจะไปให้ถึง เขาอาจจะสะดุดบ้าง เขาอาจจะล้มบ้าง เพราะว่าตอนนี้กำลังสวมบทบาทนักทดลองและนักเดินทางอยู่
ตอนนี้อาจจะหลงทาง แต่ถ้าเขารู้ว่าจะไปที่ไหนเขาจะเจอเส้นทางที่ใช่กับตัวเองในที่สุด เก็บสะเบียงไว้ให้พร้อมเพื่อความอยู่รอดและเดินต่อ
ถ้ามั่นใจว่าทางที่เดินอยู่นี้ไม่ใช่ เราก็ไม่ควรจะดันทุรังเดินต่อไป เราต้องเปลี่ยนเส้นทางให้เร็ว การที่เราหลงทางไม่ได้แปลว่าเรากระจอกครับ
