เคยอยากย้อนเวลากลับไปแก้อะไรไหมครับ ? ส่วนใหญ่แล้วความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับ สิ่งที่เรียนรู้ ในวันที่มันสายเกินไป ซึ่งในความจริงแล้วเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้
บทความนี้นำมาจาก Medim จาก Nicolas Cole ซึ่งเห็นว่ามันมีประโยชน์ต่อทุกคนครับ
ชีวิตคือการเดินทางที่ไม่ราบเรียบ ไปตามยอดเขาและหุบเขา มีภูเขาที่ต้องปีนขึ้นไปและมหาสมุทรให้สำรวจ
Nicolas Cole
คุณมีช่วงเวลาที่มีความสุข หรือช่วงเวลาที่เศร้า มันเป็นเรื่องธรรมดา
แต่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เวลาเราก้าวไปข้างหน้าเสมอ
มันไม่ได้สำคัญ ว่าคุณอยู่ตรงไหนของการเดินทาง แต่สำคัญตรงที่ว่าคุณกำลังเดินทางอยู่ นั้นแหละทำให้มันสวยงาม
พอเรายิ่งเดินทางเราก็ยิ่งเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พอเรายิ่งใช้ชีวิตเราก็ยิ่งผิดพลาด ในความผิดพลาดหลาย ๆ ครั้งนั้นก็ทำให้เราเติบโตขึ้นด้วย พอเรายิ่งโตขึ้นเราก็ยิ่งย้อนมองกลับไปในอดีต และนี้คือ 20 สิ่งที่เรียนรู้ ในวันที่สายเกินไป
1.คนส่วนใหญ่กลัวที่จะใช้จินตนาการ
ตัดขาดวัยเด็กในตัว
หลาย ๆ คนไม่รู้สึกว่าตัวเอง “สร้างสรรค์”
หลาย ๆ คนชอบสิ่งที่มันเกิดขึ้นและเป็นอยู่ อยู่แล้ว
2.ความฝันของคุณไม่ได้สำคัญกับคนอื่น ๆ มากขนาดนั้น
บางคนอาจจะสนใจในสิ่งที่เราอยากจะทำ บางคนอาจจะช่วยสนับสนุนความฝันของคุณให้เป็นจริงได้ แต่ในท้ายที่สุด ไม่มีใครให้ความสำคัญมันได้เท่าตัวคุณเองหรอกครับ ดังนั้นอย่าไปพึ่งปัจจัยภายนอกหรือคนอื่นมากนัก คุณที่แคร์ความฝันคุณได้ดีที่สุดนั้นก็คือตัวคุณเอง
3. เพื่อนและคนรอบ ๆ ตัวคุณเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามจุดที่คุณอยู่
โดยส่วนใหญ่แล้วเพื่อน ๆ ของเรานั้นจะอยู่กับเราแค่บางช่วงเวลาของชีวิตเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่คุณสนใจเรื่องอะไร หรือพึ่งไปทำกิจกรรมใด ๆ มาเพื่อนเราก็จะเปลี่ยนไปอยู่ในแวดวงนั้น ๆ ด้วย แต่เมื่อใดที่คุณเริ่มจนสนใจอย่างอื่น หรือไปต่อ ความสำคัญของคุณต่อเพื่อน ๆ ของคุณย่อมเปลี่ยนไป ดังนั้นอย่าไปซีเรียสกับมันมากและใช้ทุกช่วงให้ดีที่สุดก็พอ
4. ศักยภาพของคุณจะเพิ่มมากขึ้นจากประสบการณ์และอายุ
ในวันที่เรามีอายุมากขึ้นเราจะมีความคิดว่าเราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้น้อยลง แต่ในความจริงแล้วเรากลับทำหลายสิ่งหลายอย่างได้มากขึ้น
5. ความเป็นธรรมชาติ นำความคิดสร้างสรรค์มาให้
ถ้าเราใช้ชีวิตอยู่ในกิจวัตรประจำวันแบบเดิม ๆ ของเรา เราก็ไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ใหม่ ๆ ได้ ลองนึกดูสิครับว่าตอนเด็ก ๆ เรานั้น ปล่อยตัวเป็นธรรมชาติแค่ไหน ตอนเด็ก ๆ มันทำให้เราคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
6. คุณลืมที่จะ “รู้สึก”
นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ “รู้สึก” กับสิ่งต่าง ๆ ไปเล่มท่ามกลางสายฝน หรือดื่มด่ำไปกับบรรยากาศรอบตัว
หาเวลาที่จะนั่งดูสิ่งต่าง ๆ บนโลก และเชื่อมโยงมันให้เข้าหาเรา เมื่อนั้นเราจะรู้สึกว่าเราสนุกไปกับโลก
7. อย่าลืมทำสิ่งที่คุณรัก
หลาย ๆ คนไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและตัวเองเชื่อ เพราะโลกหมุนทุกวัน อยากให้ลองแบ่งเวลาให้สิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณเชื่อสักนิด ไม่ต้องมาก แค่วันละ 1 นาทีถ้าเป็นไปได้
8. หยุดเรียนรู้ตั้งแต่เรียนจบ
หลายคนหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่เรียนจบ การเรียนรู้สมัยนี้ไม่ได้มีแค่การอ่านอีกต่อไปแล้วสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่าน เรายังสามารถเลือกฟัง Podcast หรือศึกษาเรื่องต่าง ๆ ผ่าน วีดีโอ สารคดีทาง Netflix ก็ทำได้
9. พูดมากกว่าฟัง
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการพูดมากกว่าฟัง แล้วเราจะสังเกตเห็นบทสนทนาตลก ๆ ที่สองคนพูดคนละเรื่องเดียวกัน เพราะไม่มีใครฟังกันเลย | 10วิธีที่ทำให้บทสนาดีขึ้น
10. ความคิดสร้างสรรค์ สามารถฝึกฝนได้
ความคิดสร้างสรรค์แท้จริงเป็น Skill ที่เราสามารถฝึกฝนได้ หมั่นทำให้มันดีขึ้นและดีขึ้นเหมือนการออกกำลังกาย อยากให้กล้ามเนื้อส่วนไหนแข็งแรงเราก็ต้องออกกำลังกายส่วนนั้นบ่อย ๆ
วิธีฝีกให้มีความคิดสร้างสรรค์ วิธีนึงที่ผมคิดว่าได้ผลคือการคิดแบบไร้สาระ การคิดแบบไร้สาระมันมีพลังมาก ขอแนบ TEDxTalk ในเรื่องนี้ไว้
11. “ประสบความสำเร็จ” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เรามักถูกพลักดันให้ไปเดินทางสู่ความสำเร็จกันตั้งแต่เล็ก นั้นก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ
แต่ประสบความสำเร็จ จริง ๆ คืออะไร ?
ในสมัยนี้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและเงินทองอีกต่อไปแล้ว มันเป็นปัจเจกมากขึ้นและ คุณเท่านั้นที่จะเป็นคนที่รู้ว่าประสบความสำเร็จของคุณคืออะไร
12. เราไม่สามารถเปลี่ยนพ่อแม่ของเราเป็นคนอื่นได้
ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับพ่อและแม่ จะดีหรือแย่ยังไงเราไม่สามารถสลับสับเปลี่ยนพ่อแม่เรากับคนอื่นได้
ไม่ว่าพ่อแม่ของเราจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำอยู่หรือไม่ หรือประสบการณ์ของคุณกับท่านจะเลวร้ายเพียงไหน คุณต้องหาวิธีรับมือเพื่ออยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้
13. เราตื่นมาเจอแค่ตัวเองในทุกเช้า
เราไม่สามารถเอาใจทุกคนได้ เราไม่จำเป็นต้องเครียดเรื่องที่จะทำให้ทุกคนพึ่งพอใจหรือมัวแต่ไปเอาใจคนอื่น ๆ จนตัวเองไม่มีความสุข
คนที่คุณจะเจอในทุก ๆ เช้า ทุก ๆ วัน นั้นก็คือตัวคุณเองเท่านั้น อะไร ตรงไหน ที่ทำแล้วคุณไม่มีความสุข ดูแลและเทคแคร์ตัวเองดีกว่า
14. สิ่งที่คุณทำมันจากใจมันดีเสมอ
ความสุขสร้างได้ง่าย ๆ หากคุณทำสิ่งใดด้วยใจจริง ๆ แค่นั้นบางทีมันก็เพียงพอแล้ว
ทำตามสิ่งที่หัวใจคุณเรียกร้อง และคุณจะไม่รู้สึกว่าอะไรมันหนักหนาเลย
15. ศักยภาพของเราจะเพิ่มขึ้น ถ้าเรารู้จักตัวเองมากขึ้น
ถ้าเรารู้จักตัวเองมากขึ้นเราจะยิ่งพัฒนาจุดแข็งของเราได้มากขึ้นไปอีก
คนที่ไม่รู้จักตัวเองจะเมิน ๆ การพัฒนาจุดแข็งของตัวเองไป
16. ผู้คนที่มีข้อสงสัยในตัวคุณ ก็จะวนกลับมาเอง
คนที่เคยดูถูกคุณ หรือรังแกคุณ เดี่ยวเขาก็จนวนกลับมาหาคุณ มาถามว่าคุณทำงานอะไร? เป็นยังไงบ้าง
โฟกัสกับสิ่งที่คุณทำอยู่ อยู่กับสิ่งที่คุณเชื่อ และทำสิ่งที่คุณทำอยู่ให้ดี เดี่ยววันนั้นพวกเขาก็จะกลับมา
(อันนี้ผมเพิ่มเอง | หากเราทำสิ่งที่เราเชื่อให้ดีเราอาจจะเจอผู้คนที่เหมาะกับเราสังคมที่เหมาะกับเรา)
17. เราจะเป็นยังไงให้ดูคนที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด 5 คน
เรามักเป็นภาพสะท้อนของสภาพแวดล้อมรอบตัวเราเสมอ ๆ และเราจะเป็นยังไงให้ดูคนที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด 5 คน
ดังนั้นพัฒนาตัวเอง เพื่อนำตัวเองเข้าไปสู่สภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยากจะเป็น
18. เราเชื่ออะไร ? ให้ดูในสิ่งที่เราติดตาม
เราติดตามใครอยู่ เราชอบในสิ่งไหน ๆ นั้นแหละคือสิ่งที่ะเราเชื่อ มันหล่อหลอมความเป็นตัวเรา
แต่ละความเชื่อนั้น ไม่มี “ถูก” หรือ “ผิด” ค้นหาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง
19. อะไรก็สามารถเป็นนิสัยเสียของเราได้
อาจจะดูงง ๆ หน่อย แต่จะสื่อว่าไม่มีอะไรผิดอะไรถูกในการทำนิสัยต่าง ๆ แต่ระวังอย่าให้มันมากเกินไปในสิ่งต่าง ๆ อย่าให้น้อยเกินไปควรทำทุกอย่างด้วยความพอดี
การไปพักผ่อนจากการทำงาน อาจดูเป็นเรื่องที่ดี แต่การพักผ่อนนานเกินไปก็มักส่งผลเสีย
การทำงานถ้ามากเกินไปมันก็จะส่งผลเสียให้เราเช่นกัน
ทำทุกอย่างด้วยความพอดี
20. จุดประสงค์ในการเป็นคุณ ก็คือ คุณ
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่?
เป้าหมายต่าง ๆในชีวิตของคุณ มีเพื่อสร้างให้คุณเป็นคุณ คุณเป็น LIMITED EDITION มีคนเดียวบนโลก
สิ่งต่าง ๆ จุดประสงค์ต่าง ๆ เป็นเหมือนการปั้นงานประติมากรรม ทำให้คุณเป็นคุณในทุก ๆวันนี้ ปั้นตัวคุณเองให้เป็นตัวคุณเองจริง ๆ
reference
- https://medium.com/better-advice/20-things-most-people-learn-too-late-in-life-23674cdbd75c
