รีวิวหนังสือ O Great One กึ่งสรุป

รีวิวหนังสือ O Great One กึ่งสรุป

O Great One หรือชื่อหนังสือ ภาษาไทยก็คือ จงเอ่ยชม! พลังแห่งการใส่ใจ ใช้ที่ไหนก็สำเร็จ ซึ่งเล่มนี้ผมโชคดีได้มาจาก MISSION TO THE MOON หยิบมารีวิวให้ครับ ประเด็นอีกอีกอันหนึ่งคือ หน้าปกทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษน่าอ่านมาก เอาจริง ๆ แล้วผมชอบปกหนังสือของต่างประเทศมากกว่านิดหน่อยครับ

ถึงแม้ O great one จะเป็นหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นโดยให้คนอ่านที่เป็นหัวหน้า ผู้จัดการ หรือผู้บริหารอ่าน แต่ในเนื้อหาความจริงแล้ว คือ ไม่ว่าคุณจะทำงานคนเดียวหรือเป็นลูกน้อง มันก็ยังเหมาะสำหรับคุณนะครับ เพราะว่าโดยแก่นของเรื่องสำหรับผมนะ มันทำให้เราเป็นคนที่ NICE ขึ้นได้เลยหละ และสามารถปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์

เวลาจะเลือกหนังสือ ผมมักให้ความสำคัญของผู้เขียนมาก ๆ ว่าเขาคือใครทำอะไรมาบ้าง ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่รู้จัก David Novak นะครับพูดตามตรงเลย แต่หลังจากได้หนังสือมานั้นก็ไปหาข้อมูลเพิ่มพบว่า  ประวัติน่าสนใจมาก ๆ คือแก เป็นอดีต CEO ของ YUM! แล้วYUM! ทำอะไร? สั้น ๆ คือ Yum! เป็นบริษัทเกี่ยวกับการบริหารร้านอาหารหลาย ๆ ร้านเช่น  KFC, Pizza Hut, Taco Bell, The Habit Burger Grill

 David Novak เขียนหนังสือเล่มนี้เป็น ฟิกชั่น หรือวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริหารจัดการ โดยสร้างองค์กรผลิตและจำหน่ายของเล่นเด็ก ที่ได้ CEO คนใหม่เข้ามา ในช่วงที่สถานการณ์ของบริษัทไม่ค่อยดีนัก บริษัทมีแต่ความขัดแย้ง พนักงานไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน

ซึ่งโดยมีการแก่นของเรื่องคือทำให้เราเป็น OGO (OGO= O Great One) นั้นเองครับ โดยมีหลัก 10 ข้อดังนี้

1. คนอื่นไม่ได้สนใจคุณ ถ้าคุณไม่สนใจคนอื่น (People won’t care about you if you don’t care about them.)

คุณต้องใส่ใจผู้คนอื่น ๆก่อนเป็นอันดับแรกด้วยความจริงใจก่อนจะไปคาดหวังสิ่งต่าง ๆ จากเขา

2. วิธีที่ดีที่สุดของการทำให้เขารู้ว่าเราใส่ใจก็คือ การรับฟัง (The best way to show people you care is to listen to them.)

ผู้คนจะไม่เชื่อว่าคุณใส่ใจ ถ้าคุณไม่สามารถแบ่งเวลามารับฟังพวกเขาได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็มีค่าที่เราจะรับฟังทั้งนั้น

3. ไอเดียดี ๆ มีได้จากทุกที่ (A Great idea can come from anywhere)

ไอเดียดี ๆ ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้มาจากแค่กลุ่มผู้บริหาร หรือคนระดับสูงเท่านั้น แต่ความคิดดีๆ สามารถมาจากทุกกลุ่มพนักงาน ทุกระดับของพนักงาน ไม่ว่าจะอยู่สูง หรือต่ำแค่ไหน ทุกคนสามารถที่จะเสนอความคิดที่ดีได้เสมอ ดังนั้นจงมองทุกคนในฐานะของแหล่งที่มาของความคิดอันยอดเยี่ยม

4. ชื่นชมผลงานและความคิดที่ยอดเยี่ยมทุกที่ทุกเวลาที่คุณเห็น (Recognize great work and great ideas whenever and wherever you see them)

ผู้นำที่ดีจะชื่นชมความคิดเห็นของผู้อื่นมากพอ ๆ กับความคิดของตัวเอง หรือมากกวาด้วยซ้ำ และหากว่ามันดีต่อภาพรวมเขาจะทำตามความคิดเห็นของผู้คนนั้น ๆ อย่างเอาจริงเอาจังและจริงใจ โดยไม่ต้องรอให้ถึงการประชุมประจำเดือน หรือการประเมินผลงานเลย เขาจะชื่นชมและแสดงให้เห็นว่า เขาชื่นชอบไอเดียแค่ไหนและหาโอกาสชื่นชม คุณจงเป็นคนคนนั้น

5. ใช้การให้ความสำคัญเพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ (Make recognition a catalyst for results.)

ให้ใช้การให้ความสำคัญ และคำชมเหล่านี้ เป็นตัวกระตุ้นผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ชมแบบลอยๆ แล้วจบไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ของงานที่ทำด้วย เพื่อทำให้พนักงานรู้ว่า นี่คือสิ่งที่ดี และต้องทำต่อไปให้ดีขึ้นไปอีก การชมลอยๆ หรือ ชมแบบไม่เชื่อมโยงกับผลงานเลย จะไม่มีประโยชน์อะไรต่อผลงานของพนักงานเลย

6. ทำให้มันสนุก (Make it fun)

ทำให้เรื่องการให้ความสำคัญ และการชื่นชมผลงานนี้ เป็นเรื่องสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ แบ่งปันประสบการณ์นี้ให้กับทุกคนในทีม ทำให้คนอื่นรู้สึกดี และสนุกไปด้วย ก็จะเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นอยากที่จะทำดีๆ แบบนี้ด้วยเช่นกัน

7. ทำให้เป็นเรื่องเฉพาะตัว (Make it personal)

คือเวลาจะชื่นชมใครไม่จำเป็นต้องทำเป็นพิธีรีตองแต่ควรเลือกหรือคิดวิธีที่เหมาะกับคน คนนั้น พร้อมรู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงควรได้รางวัลแบบนี้ คำชมแบบนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ พร้อมระบุให้ชัดเจนว่าทำไมเขาถึงได้รางวัลนี้ที่คุณให้

8. การให้ความสำคัญเป็นเรื่องสากล (Recognition is universal)

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงเวลาไหนของชีวิต อายุเท่าไหร่ ตำแหน่งอะไร การ Recognition คือเรื่องที่ทุก ๆ คนต้องการ

9. การให้ความสำคัญเป็นเอกสิทธิ์พิเศษ (Giving recognition is privilege)

การให้การ Recognition ไม่ใช่เรื่องที่ (ต้อง)ทำในฐานะหัวหน้า ให้เรามองว่าเราทำให้ใครสักคนในฐานะคนคนหนึ่ง เพราะมันช่วยหล่อเลี้ยงความรู้สึก ทำให้เขารู้สึกเติมเต็มกับชีวิตให้เขารู้สึกดีกับตัวเอง และมันจะสะท้อนความพิเศษเหล่านั้นกลับมาหาคุณเช่นกัน  มันดีกับทั้งผู้ให้และผู้รับ

10.  พูดขอบคุณทุกครั้งที่มีโอกาส (Say thank you every chance you get)

คำว่า “ขอบคุณ” มันสั้นและไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการพูด ดังนั้น จงใช้มันให้บ่อย!

REFLEX จากการอ่าน รีวิวหนังสือ O Great One

ในห้วงชีวิตเรา เราพบเจอคนเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนมันต้องมีคนที่เรารู้สึกว่าคนคนนี้คือคน nice คนคนนี้คือ OGO ของเรา

ลองนึกดูสักครู่ครับว่าใคร คือ OGO ของคุณ แล้วจากนั้นถามตัวเองว่า คนคนนี้เข้ามาส่งผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างไรบ้าง เพราะอะไร? เขาหรือเธอมีบทบาทอะไรในการทำให้ฉันมายืนอยู่ตรงจุดจุดนี้ได้ในทุกวันนี้บ้าง แล้วมันมีความหมายแค่ไหน

เช่นกัน คุณเป็น OGO ของใครบ้าง
ลองคิดดูหลังจากอ่านสรุปทั้งหมดของบทความนี้ ลองถามตัวเองว่า หากเราสามารถส่งผลอะไรกับการทำงานของใครสักคนได้จะเป็นอย่างไร ? ถ้าหากเรามารถส่งผลกับชีวิตของใครสักคนได้จะเป็นอย่างไร และมันจะมีความหมายแค่ไหน?