ก่อนหน้านี้มีการลองทำ Meditation ตาม NETFLIX ตามที่รีวิวของ Headspace ไปก่อนหน้านี้ เราค้นพบว่า Meditation และ Flow Stage หรือสภาวะการไหลมันสัมพันธ์และต่อยอดกันอย่างดีเลย วันนี้เลยขอเอาสิ่งที่ตัวเองพบมาแชร์ (จริง ๆ เขียนเพื่อตัวเองจะได้เข้าใจมันมากขึ้นนั้นแหละ)
ทำไม Meditaion และ Flow Stage ถึงสำคัญกับเรา ?
Meditaion คือการทำสมาธิ สำหรับเราคืออะไรก็ได้ที่ทำให้ใจจดจ่ออยู่กับ “ปัจจุบัน” ไม่จำเป็นต้องนั่งขัดสมาธิใด ๆ อาจเป็นกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองมีสติอยู่กับสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญ
Flow Stage คือการติดลม หรือสภาวะการไหล ที่ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนลืมดูเวลานั้นเอง
สองสิ่งนี้มันดูเหมือนกันตามนิยาม เรากลับรู้สึกว่ามันเป็นคนละ สเตจ กัน และมันต่อยอดซึ่งกันและกันอะ
แต่สองสิ่งนี้มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่ก็คือ หากทำแล้วมันจะเกิดความรู้สึก fulfilled เป็นความรู้สึกดีแบบอธิบายไม่ถูก ซึ่งยิ่งเกิดสภาวะนี้บ่อย ๆ กับตัวเองมันทำให้เรามองตัวเองดีขึ้น รักตัวเองมากขึ้น ภูมิใจในตัวเองมากขึ้น กังวลเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับปัจจุบันน้อยลง
นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ
Meditation การตั้งสมาธิ
Meditate เป็นกระบวนการที่เราทำให้มันเกิดขึ้น เป็นการจัดเตรีียมบรรยากาศสภาพแวดล้อมให้พร้อม หรือการนั่งลงพูดกับตัวเองว่า
“วันนี้เราจะ meditate นะ”
เป็นการทำให้มันเกิดขึ้นจากการตั้งใจ
เราเปรียบเหมือนเป็นการฝึกฝน ทำบางสิ่งบางอย่างให้เก่งขึ้น ยิ่งทำบ่อย ๆ ความทรมาน เรียกว่าความไม่ชินดีกว่า
ความไม่ชินในสภาพร่างกาย จิตใจ ก็จะค่อย ๆ ชินขึ้นตามชั่วโมงบินที่เราฝึก
เราเปรียบเหมือนการทำ meditate เป็นเหมือนการฝึกขับเครื่องบินขึ้น
Flow Stageสภาวะการไหล
ต่อมาที่ Flow เป็นกระบวนการที่ เกิดขึ้นระหว่างทางการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักไม่ได้เกิดขึ้นตอนแรก เกิดขึ้นในการทำกิจกรรมที่ชอบ
เหมือนเป็นบลัฟในเกมส์ที่แบบเราต้องไปเก็บตามพุ่มไม้ระหว่างทาง แต่พอได้พลังตรงนี้มาเราก็จะติดลมบนสามารถทำงานหรือกิจกรรมนั้น ๆ ได้อย่างไหลลื่นเลย
เราเปรียบเหมือนสิ่งนี้เป็น เครื่องบินที่บินติดลมบนแล้ว สามารถเปิดโหมด Autopilot ได้นั้นเอง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือ
สมมุติว่างานเขียนเป็นงานที่เราทำแล้วเกิด Flow แต่การเกิดสภาวะนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นในตอนแรก มันต้องใช้ความอดทนในการเขียนสัก 1 หน้า จึงจะเกิดภาวะติด Flow หลังจากนั้นก็สามารถเขียนได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่ถูกขัดจังหวะ
แต่ในช่วงเขียน 1 หน้าแรกนั้นเราต้องใช้ สมาธิในการเขียนมักเสียก่อน คือเหมือนข่มตัวเอง บังคับตัวเอง ให้เลิกขี้เกียจเขียนอะ ทำให้ตัวเองจดจ่อกับการเขียนนั้นเองครับ
ซึ่งจริง ๆ แล้วเราคิดว่ามันไม่ได้เกิดจากกิจกรรมเท่านั้นนะ มันเกิดขึ้นในการทำสมาธิเองด้วยนั้นแหละ เกิดทั้งสองสภาวะนี้เช่นเดียวกัน
เราชื่นชมทุกคนที่ทำสมาธิบ่อย ๆ ไม่ว่าจะตามศาสนาหรือใด ๆ
การทำสมาธิในช่วงแรก ก็ต้องใช้ความพยายาม แต่พอนั่งไปสักพัก ก็จะเกิดสภาวะFlow เช่นเดียวกัน หากเราจดจ่ออยู่กับปัจจุบันและตัดความกังวลเรื่องอื่น ๆ ได้ และมันนำมาซึ่งความรู้สึก fulfilled นั้นเอง
ตามที่ผู้ที่ชอบนั่งสมาธิบอกกันว่า “ต้องลองทำเองถึงจะรู้” นั้นเองครับ
โดยสรุปก็คือ
การทำสมาธิ Meditate จะช่วยทำให้เกิดสภาพวะ Flow ได้ง่ายมากขึ้น
และหากเราเข้าสภาวะ Flow แล้ว หากเรามีสมาธิที่แข็งแกร่งพอ
การถูกขัดจังหวะหรือหลุดจาก Flow จะยากขึ้น และหากติด Flow บ่อย ๆ มันจะทำให้เรามีความสุขจากภายในมากยิ่งขึ้นนน ดังนั้นอยากให้ทุกคนลองดู ง่าย ๆ อย่างการจัดบ้าน หรือเปิด NETFLIX ดูของ Headspace เลยนะคร้าบบบบบบบบบ
