หนังอนิเมชั่นจากโซนี่ หลังจากออกมาไม่นานก็ฮิตติดกระแสใน NETFLIX ไปเป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนมีทั้งเสียงชมและเสียงติ แต่จากความคิดเห็นของเรานั้นเป็นยังไงไปรับชมกันได้เลย รีวิว WISH DRAGON
ฟังรีวิวแบบไม่ต้องอ่านผ่าน PODCAST
ดูแบบเป็นคลิป แบบไม่ต้องอ่าน

เรื่องย่อ
ติ่นเด็กหนุ่มส่งเดลิเวอร์ลี่ ผู้บังเอิญไปเจอกับตะเกียงวิเศษในขณะที่ไปส่งเกี้ยว เป็นตะเกียงที่มี “หลงจู” ซึ่งเป็นมังกรที่สามารถขอพรอะไรก็ได้ 3 ข้อ ในขณะที่ติ่นกำลังคิดว่าจะขอพรอะไรอยู่นั้น หลงจู ก็โน้มน้าวให้รีบ ๆ ขอ ไม่ว่าจะเป็น “เงิน เป็นทองหรืออำนาจ” แต่ติ่นกลับเลือกที่จะขอสิ่งที่ขัดใจ “หลงจู” สุด ๆ นั่นก็คือขอกลับไปเจอ “หลีนา” เพื่อนสมัยเด็กของตน
รีวิวWish Dragon
ข้อสังเกตแรกจากผู้ชมหลาย ๆ ท่าน
ก่อนอื่นเลย ถ้าอ่านจากเรื่องย่อ Wish Dragon ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ อนิเมชั่นของ DISNEY อย่าง Aladdin ที่มีพล็อตเรื่องคล้ายกันอย่างกับจับวาง คือมีตะเกียงวิเศษ “จีนี่” ยักษ์ผู้ที่ขอพรอะไรก็ได้ อลาดินผู้ที่จะขอพรไปเจอเจ้าหญิง หนังเรื่องนี้จึงถูกนิยามให้ว่าเป็น อลาดินเวอร์ชันไชน่าทาวน์
ขั้นวิจารณ์หนัง Wish Dragon
สำหรับผม หนังอนิเมชั่น Wish Dragon ถือว่าเป็นหนังที่เป็นหนัง ดี (มีแย่มาก,แย่,ปานลาง,ดี,ดีมาก) ซึ่งถ้าไม่มีหนังอย่างอลาดินมาเปรียบเทียบก็เรียกได้ว่าเป็นหนังที่น่ารักเอาเรื่องเลยหละครับ
Wish Dragon สอดแทรกข้อคิดคติ ที่ผมรู้สึกว่ามันทำให้เราเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกและ ทัศนคติดีเลยหละครับ ตามสไตล์หนังครอบครัวและอนิเมชั่นสำหรับเด็กนี่แหละครับ เทคนิคการเล่าเรื่องผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันดีตามสไตล์ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นหรือมีอะไรที่แปลกแหวกแนวเท่าไหร่ เหมือนกับว่าแต่ก่อนเคยทำหนังแนวนี้ประสบความสำเร็จมาอย่างไรก็ทำมันอย่างนั้นเลยนั่นเองครับ
ในอีกด้านหนึ่งก็มีคำวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบอยู่บ้างว่าเป็นอนิเมชั่นที่ยัดเยียดข้อคิดและทัศนคติเกินไปซึ่ง ถ้ามองมุมนั้นมันก็จริงของเขาครับ แต่ผมคิดว่า มันก็เหมาะสมแล้วถ้ากลุ่มคนดูยังเป็นเยาวชนที่ควรหล่อหลอมทัศนคติแบบนี้ แต่หากมีความคิดว่ามันโลกสวยเกินไป แสดงว่าเราอาจจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของหนังนั่นเองล่ะครับ เพราะคนที่ผ่านโลก มีประสบการณ์ เจอโลกแห่งความเป็นจริงมาแล้วย่อมมีบางอย่างที่ขัดใจเป็นธรรมดาครับ
หากถามว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ต้องดูเลยไหม ผมรู้สึกว่าก็ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องดูน่ะครับ แต่หากมีเวลาว่างที่ไม่มีอะไรทำการหยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดูก็เป็นตัวเลือกให้เรารู้สึกดีได้เช่นเดียวกันครับ

ข้อคิดที่ผมได้จากเรื่องนี้
การได้ข้อคิดจากหนังเนี่ยหลาย ๆ ครั้งมันเป็นสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเราควรจะทำแบบไหน แต่หลาย ๆ ครั้งลืมมันครับ หนังเรื่องนี้ก็ทำหน้าที่เตือนสติผม เกี่ยวกับเรื่องที่สำคัญกับชีวิตจริง ๆ ว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่สำคัญต่อชีวิต
การได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว ถึงแม้มันไม่เพอร์เฟคแต่มันก็สมบูรณ์แบบในแบบของมัน
*หมายเหตุ : หลายครอบครัวไม่เหมือนกันนะครับ*
หากใครดูจบก็คงมีความคิดแบบนี้ขึ้นมาบ้าง การใช้ชีวิตในโลกทุนนิยม ใครมีเงิน มีทรัพย์สินมักได้รับการเชิดชูบูชาโดยไม่ได้สนใจว่าเขาคนนั้นเป็นคนดีหรือไม่ซึ่ง การที่เราดิ้นรนอยู่นั้นอาจจะมีทัศนคติที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเกินความเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ตบกระบาลเราให้ตั้งสติ ดูสิ่งรอบข้างและถามตัวเองจริง ๆ ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงแลกกับช่วงเวลาและมิตรภาพดี ๆ ได้หากพวกเขาจะจากไป
นั่นแหละครับคือการรีวิว WISH DRAGON เรื่องนี้ซึ่งหากมีเวลาการดูหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรและเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ขอให้คะแนนเรื่องนี้ 7.5ละกันครับ