ออนไลน์ | รีวิว fast and furious 9 ดู นี่ดิ แบบไม่ สปอย หนังฟอร์มยักษ์ภาคต่อจากจุดเริ่มต้นหนังแข่งรถ ปัจจุบันน่าจะเอาดีเป็นหนังฮีโร่ไปเสียแล้ว
ข้อมูลหนัง Fast and furious 9 ดู นี่ดิ
- ผู้กำกับ
- คนเขียนบท
- Daniel Casey(screenplay by)
- Justin Lin(screenplay by)
- Alfredo Botello(story by)
- นักแสดงนำ
เรื่องย่อ ใน Fast 9
อดีตของ ดอม โทเร็ตโต เป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่จะถูกเฉลยในภาคนี้ หลังจากเราเห็นภาพ ดอม เป็นคนยึดอุดมการณ์ ครอบครัว มาก่อนเสมอ และใช้ชีวิตอย่างสงบกับ เลตตี้ แต่ก็ต้องกลับมาเจอกับน้องชาย “เจคอบ” ที่แสดงโดย จอห์น ซีน่า เป็นการเฉลยว่าเขามีน้อยชายอีกคนที่ไม่ได้เจอกันนานมาก ๆ และเหตุใด ดอม ถึงไม่เคยพูดถึงน้องชายคนนี้เลย จะได้รู้กันในหนังเรื่องนี้ ! อีกตัวละครสำคัญก็กลับมาก็คือ “ฮาน” ผู้ที่รถระเบิดคว่ำไปตั้งแต่ภาค 7 ทำไมเขายังมีชีวิตอยู่และช่วงที่เขาหายไปเขากำลังทำอะไร ?
ครอบครัว ฟาสแอนฟีเรียส
หนังเรื่องนี้ ดู เหมือนจะให้ความสำคัญและคงคอนเซป ความเป็นครอบครัว ในหมู่เพื่อนฝูงเป็นพิเศษเลยหละครับ ก็สมควรและเหมาะสมแล้วหละครับ เพราะหนังFast and Furios ภาคนี้เป็นภาคที่ครบรอบปีที่ 20 ของ Fast ซึ่งถึงแม้มันจะแตกต่างจากภาคแรกมหาศาลที่เน้นการแข่งรถ แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่มีมายาวนานเลยทีเดียว

“I don’t have friends, I got family.
— Dominic “Dom” Toretto คำคม
ผมไม่ได้มีเพื่อน ผมมีครอบครัว”
หนังเรื่องนี้ดีอย่างไร ?
Fast and furious 9 ดูนี่ดิ วิจารณ์หนัง ด้วยความสัตย์จริง เวลาผมเขียน รีวิวแต่ละเรื่องผมมักเขียนเริ่มจากข้อดีของหนังเรื่องนั้นและแง่คิดที่ได้จากเรื่องนั้นก่ฮนเสมอ ๆ แต่เรื่องนี้ผมพยายามนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก นอกจากความลงทุนด้าน CG ซึ่งมันเป็นองค์ประกอบภายนอกของหนัง ซึ่งขอชม CG และการพยายามปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ของหนังที่พยายามปรับให้เข้ากับกระแสแล้วกันครับ

หนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรจากทัศนะจริง ๆ
ผมคิดว่า ฟาสแอนฟีเรียส 9 ภาคอื่น ๆ ยึดติดกับตัวนักแสดงมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งในเรื่องก็คือ ดอม โทเร็ตโต้ ซึ่งมันไม่ใช่ไม่ดีหรอกนะครับ เราจะได้ผูกพันธ์กับตัวละคร แต่นี่มันหลายภาคเกินไปจนรู้สึกเบื่อ เราเห็นดอมมาตั้งแต่แค่แข่งรถ แต่ตอนนี้เปรียบเหมือน โงกุน ในการ์ตูนดราก้อนบอลที่ฆ่าไม่ตายไปแล้วหละครับ
รวมทั้งตัวละครอื่น ๆ อีก ซึ่งผมมองว่าหนังเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจทั้งการตัดต่อ การเดินเรื่องจากหนัง มาร์เวลซึ่งมันต่างกันตรงที่ มาร์เวล มีระยะเวลาของงตัวละคร มีเริ่มต้นและสิ้นสุด และมีความหลากหลายของเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันตามตัวละคร แต่เรื่อง Fast มันไม่ใช่แบบนั้น ทุกคนมากระจุกอยู่ในหนังเรื่อง ๆ เดียว และการอยู่กับใครนาน ๆ มันย่อมน่าเบื่อเป็นธรรมดา ผมแอบรู้สึกว่าถ้าจะทำ Fast กันต่อไป จะมาเน้นแค่ CG อย่างเดียวไม่น่าจะเวิร์กแล้ว เนื้อเรื่องต้องสมเหตุสมผลด้วย และต้องมีจุดแข็งที่อาจจะเป็นเรื่องของการแข่งรถจริง ๆ เสียมากกว่า
ซึ่งหนังแข่งรถอาจจะมีลูกเล่นได้ไม่เยอะเท่าในด้านของเทรนด์กระแสหลักที่ผู้คนชอบดูฮีโร่ แต่หนังแข่งรถดี ๆ อย่าง อนิเมชั่นเรื่อง Car ก็น่าสนใจและดีทีเดียว หรืออาจจะเป็นไปในทางจัดอีเว้นท์แข่งรถหรือทัวร์นาเม้นอะไรน่าจะดีกว่า เพราะในตลาดมีหนังแข่งรถไม่มากนัก ดีกว่ามาเดินสายฮีโร่ที่เหล่านักวิจารณ์บอกกันว่า Fast10 จะไปสู้กับธานอส
Fast สำหรับผมในภาคนี้ไม่ใช่หนังที่ถือว่าดีนัก แต่เอาหนะเขาลงทุนไปกว่า 200 ล้านดอลล่าห์ ก็คิดว่าดูซีจีขำ ๆ แล้วกัน (ปลอบใจตัวเองอยู่นะฮะ)
กล่าวโดยสรุปคือ
เรื่องนี้จัดเข้าขั้นว่า ดูไปเฉย ๆ อย่าคาดหวังกับมันมาก ให้ดูถ้าไม่มีอะไรดูจริง ๆ ชื่นชมในความพยายามและซีจี อย่างเดียวแล้วกัน นั้นคือ รีวิว Fast and Furious 9 ดู นี่ดิ
คะแนน หนัง Fast and Furious 9
คะแนนโดย Bigdream และวิจารณ์หนังบนพื้นฐานความคิดเห็นส่วนตัว
- คุณภาพงานสร้าง CG, Producer, Sound 7
- ตรรกะของหนัง Logical 1
- ความบันเทิง Entertianment 3
- นักแสดง 4
หนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรในความคิดคุณร่วมกันกดคะแนนโหวตกัน !