MODERNA กัน COVID-19 ได้ดีกว่า PHIZER ในสายพันธ์ที่กำลังระบาดใหม่อย่างเดลต้าตอนนี้ ผลปรากฏว่าไฟเซอร์์มีประสิทธิภาพเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกัน จากผลการวิจัยจาก Mayo Clinic
- 3 วิธีในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในยุคโควิด-19 จาก CEO Signavio
- ล็อกดาวน์ เปล่าประโยชน์ ! | ล้าสภา ep2
- Covid-19 ไม่อาจต้าน การเฉลิมฉลองปีใหม่ 2021 ของ มวลมนุษยชาติได้ !

วัคซีน mRNA ที่เป็นที่นิยมที่ชาวไทยอยากได้กันก็คือ Pfizer เรียกได้ว่าเป็นวัคซีนที่คนไทยเชื่อว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ ก็มีประสิทธิภาพไม่สูงนักในการป้องกันสายพันธ์ เดลต้า !! แต่ยังมีข่าวดีสำหรับการป้องกันสายพันธ์นี้ ก็คือวัคซีน Moderna ยังสามารถป้องกันได้ดีอยู่
ผลการศึกษาพบว่าในเดือนกรกฎาคมในฟลอริดา ซึ่งมีผู้ป่วยโควิด-19 สูงเป็นประวัติการณ์และมีการแพร่กระจายของสายพันเดลต้าค่อนข้างเยอะในรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริการ ประสิทธิภาพของ Pfizer เมื่อเจอกับสายพันธ์นี้มีความสามารถในการป้องกันต่ำกว่า Modernaอยู่ที่ 60% เลยทีเดียว
เช่นเดียวกับ ในรัฐมินนิโซตาเมื่อเดือนที่แล้ว วัคซีน Moderna (หรือที่เรียกว่า mRNA-1273) มีประสิทธิภาพ 76% ในการป้องกันการติดเชื้อ แต่วัคซีนไฟเซอร์ (เรียกว่า BNT162b2) มีประสิทธิภาพเพียง 42%
แต่อย่างไรก็ดี
วัคซีนทั้งสองชนิดถือเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพสูง สร้างภูมิคุ้มกับให้ร่างกายเราอย่างมาก เพราะเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนคือป้องกันได้มากกว่า 8 เท่า และกันการเสียชีวิตได้ 25 เท่า จาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention – CDC)

Pfizer ก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อสายพันธ์เดลต้า
Pfizer บอกกับ Axios ว่าPfizer และ BioNTech ”คาดว่าจะสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนที่ให้เหมาะกับสายพันธ์เดลต้าได้ภายใน 100 วันหลังจากตัดสินใจทำเช่นนั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติด้านกฎระเบียบ”
ต่อมา บริษัทได้ยืนยันประสิทธิภาพของวัคซีนและกล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสารกระตุ้นเช่นกัน (บูสเตอร์)
“Pfizer และ BioNTech ได้จัดทำโครงการวิจัยบูสเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าวัคซีนของเรายังคงให้การปกป้องในระดับสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ ข้อมูลเบื้องต้นของวัคซีนที่มีอยู่ในการบูสในโดสที่ 3 แสดงให้เห็นว่าการให้ต้องบูสในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากโดสที่สอง จะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันดีเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ไวด์ เบต้า และเดลต้า” ไฟเซอร์กล่าวในแถลงการณ์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Moderna เตือนว่าการติดเชื้อที่ลุกลามกำลังเพิ่มสูงขึ้นและกล่าวว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนน่าจะจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นก่อนฤดูหนาว และเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ไฟเซอร์ยังกล่าวอีกว่าบูสเตอร์ที่อยู่ในการทดสอบอยู่แล้วจะมีผล กับเดลต้า
ข้อมูลจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่ง ปัจจุบันเดลต้าคิดเป็น 90% ของผู้ที่มีผลตรวจโควิด-19 ที่เป็นบวกทั้งหมดที่ทำการทดสอบ เมื่อต้นสัปดาห์นี้
ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ฟิล เมอร์ฟี ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนครบโดสคิดเป็น 18.5% ของผู้ป่วยโควิดรายใหม่ คิดเป็น 3% ของการรักษาในโรงพยาบาลใหม่ทั้งหมดในสหรัฐ ในช่วงวันที่ 20-26 กรกฎาคม
สัดส่วนการฉีดวัคซีนในนิวเจอร์์ซีย์
ไฟเซอร์คิดเป็น 30% ของ (ปริมาณมากกว่า 10.6 ล้านโดสที่ฉีดในรัฐนิวเจอร์ซีย์จนถึงปัจจุบัน)
ในขณะที่โมเดอร์นามีสัดส่วนประมาณ 21% ข้อมูลของรัฐแสดงให้เห็น
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/08/12/mayo-clinic-covid-breakthrough-risk-may-be-much-lower-with-moderna-vaccine-than-pfizer.html
- https://www.medrxiv.org/content/10.1101/2021.08.06.21261707v1