ท้องฟ้า ไม่เหมือนเดิมเลยสักวัน ทั้ง ๆ ที่เป็นสถานที่เดิมจุดเดิม การมีความรักกับท้องฟ้าเป็นสิ่งนึงที่หลาย ๆ คนเป็นซึ่งมีมากมายหลายเหตุผลแตกต่างกันไปทำให้เรากลายเป็น Ouranophile ผู้หลงไหลในท้องฟ้า
บุคคลผู้หลงรักใน ท้องฟ้า
Ouranophile – ผู้รักท้องฟ้า

ตามตำนานกรีก มีเทพเจ้าที่ชื่อว่าอูรานอส (Οὐρανός / EN; Ouranós) เป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้า ผู้งดงาม และอิสระ เทพเจ้าแห่งท้องฟ้าถูกจับคู่โดยลูกศรของ เอรอส เทพเจ้าแห่งความรัก ที่พวกเราคุ้นเคยกันในชื่อว่า “คิวปิด”

เอรอส ยิงลูกศรแห่งความรักให้กับ อูรานอส และ ไกอา ผู้เป็นเทพีแห่งพื้นดิน ด้วยเหตุผลง่าย ๆ และช่างสังเกต คือ เอรอส (คิวปิด) เห็นว่า พื้นดินนั้นเฝ้ามองท้องฟ้าในทุก ๆ วัน เลยจับคู่ให้สองตนนี้รักกันเสียเลย …
Uranos นอกจากเทพยังแปลว่่าท้องฟ้า
Οὐρανός (EN ; Ouranós) เป็นภาษากรีกที่นอกจากจะเป็นเทพเจ้าแล้ว ยังแปลได้อีกว่า “ท้องฟ้า”
Phile ผู้หลงรักในบางสิ่ง
จึงเป็นคำเรียกที่ใช้เรียกคนที่หลงรักในท้องฟ้า Ouranophile
เหตุผลที่เราชอบเงยมองฟ้า
เหตุผลที่เรารักท้องฟ้านั้นแตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันเลยก็คือ ท้องฟ้าเป็นเหมือนกระจกสะท้อนภายในจิตใจเรา
การที่เรามองท้องฟ้าในแต่วันนั้น ท้องฟ้ามันไม่เคยเหมือนกันเลยในสักวัน แต่เราอาจจะรู้สึกว่า วันนี้มันสวย วันนี้มันน่ารัก วันนี้มันเป็นสีชมพู วันนี้มันเป็นสีดำ
การตีความของตัวเอง
การที่เรารู้สึก/ตีความ ว่าท้องฟ้าวันนี้มันเป็นอย่างไร มันบอกว่าตอนนี้สภาพจิตใจของเรามีสภาวะอารมณ์แบบไหนด้วย เป็นเหมือนช่วงเวลาที่เราได้เกิดการ Reflections กับตัวเอง
สะท้อนถึงสัญชาตญาณ
- สีฟ้าจากท้องฟ้า ในวันที่ไม่มีเมฆมาบดบัง อาจทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย เพราะสมัยก่อนช่วงเวลาแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ดึกดำบรรพ์ใช้ในการออกไปหาอาหาร
- สีส้ม ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ทำให้เรารู้สึกถึงการหยุดเพื่อพักผ่อนจากความเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวัน เพราะสมัยที่เหล่าบรรพบุรุษของมนุษย์ยังไม่มีไฟ เป็นตัวบอกเวลาว่าใกล้จะค่ำแล้วนะ
- สีชมพู ขณะอาทิตย์กำลังขึ้นในหน้าหนาว อาจทำให้เรารู้สึกว่า เราจะมีการเริ่มต้นที่ดีในวันนี้ หรือได้รับสิ่งดี ๆ ในวันใหม่
- สีดำยามกลางคืน แสดงให้เห็นดวงดาวที่เป็นตะกอนหรือขยะจักรวาล ที่สะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์มาอีกที เพื่อให้มนุษย์มีเรื่องเล่าถึงเหล่าเทพต่าง ๆ และมีจินตนาการยามค่ำคืน
เราต้องเงยหน้าเพื่อมองฟ้า
ผมเป็นอีกคนที่หลงรักในท้องฟ้า เพราะเวลาที่เราจะจ้องมองมัน เราไม่เคยต้องก้มหน้าแม้สักครั้งเดียว เราต้องเงยหน้าเพื่อมองมันเสมอในวันที่ผมคอตกจากความผิดหวัง ความเศร้า หรืออะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ
ท้องฟ้า และ ก้อนเมฆ รวมทั้งแสงจากดวงอาทิตย์ช่วยผมได้ทุกครั้ง เพราะเหมือนมันบอกว่า
“เงยหน้า แล้วไปต่อ”
สุดท้าย ผู้ที่รักท้องฟ้า (Ouranophile) นั้นคงมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป
บางคนฝากความทรงจำไว้กับท้องฟ้า
บางคนฝากใครสักคนไว้บนนั้น เพื่อเป็นตัวแทนของใครสักคน
บางคนฝากเรื่องราวที่เคยนั่งดูมันกับคนสำคัญ
นี่แหละเสน่ห์ของท้องฟ้าที่ผมรักล่ะครับ เพราะมันกว้างใหญ่ ไม่สิ้นสุด ชวนจินตนาการ ชวนตั้งคำถาม และจะฝากอะไรไว้บนนั้นก็ได้
แล้วเหตุผลที่คุณรักท้องฟ้า… คืออะไรล่ะครับ?
บทความที่คุณน่าจะอยากอ่านต่อ
ความรัก คือ ? นิยามความรัก
ใช้เวลานานแค่ไหนที่มนุษย์จะตกหลุมรักกัน
Self criticism พฤติกรรมทำร้ายตัวเองที่หลายคนไม่รู้ตัว
อย่ามอง กลับไปนั่นไม่ใช่ทางที่คุณจะเดิน