Dune ดู รีวิว โลกอนาคตในมุมมองคนในอดีต

Reading Time: 2 minutes

Dune ดู รีวิว หนัง ฟรี | นิยายไซไฟที่เล่าถึงโลกอนาคตอย่างดูน บริษัทยักใหญ่อย่าง Warner Bros. หยิบหนังกลับมารีเมคอีกครั้งเพื่อเล่าถึงโลกในอนาคตอันไกลโพ้นจากมุมมองนักเขียนนวนิยายในอดีต

ย้อนกลับไปในสมัยนั้น นวนิยายไซไฟต่อต้านวัฒนธรรมใหญ่สองเล่มคือ Stranger in a Strange Land  โดย Robert Heinlein ซึ่งเป็นกลุ่มเสรีนิยมซึ่งทำให้คำว่า “grok” มีความหมายเป็นเวลาหลายปี (ปริศนาอักษรไขว้ในปัจจุบัน) และ Dune ปี 1965 ของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ซึ่งเป็นนวนิยายเชิงรัฐศาสตร์แห่งอนาคตที่ต่อต้านองค์กร อนุรักษ์นิยม และอิสลาม  และเหตุผลที่ยักษ์ใหญ่วงการหนัง ถึงกลับมารีเมคภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นคำถามที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของบทวิจารณ์นี้ แต่ก็เป็นคำถามที่น่าสนใจ

BIGDREAM EDITOR TEAM ก็มีความคิดเห็นว่าต้องดูหนังเรื่อง Dune เพื่อหาคำตอบมันสักหน่อยหลังจากที่ ผู้บริหารของเรา Karnnikro เล่าว่า “ไปเจอคนฝรั่งเศสคนหนึ่งที่เชียงใหม่และบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องดู” ซึ่งเป็นคำสั่งนัย ๆ ว่า ‘ไปเขียนรีวิวเรื่องนี้ซะ’

Dune ถูกทำมาจากนิยายไซไฟที่ให้ความคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับ วัฒนธรรม การปกครอง และเคยถูกทำเป็นหนังมาแล้วในปี 1984 ของเดวิด ลินซ์ ซึ่งถูกสร้างโดยผู้อำนวยการสร้างรายใหญ่ในขณะนั้น หลายคนที่อ่านนวนิยายต้นฉบับของ แฟรงค์ เฮิร์เบิร์ตส่วนใหญ่จะเล่ากันประมาณว่า มันอ่านยากมาก ๆ แต่ก็รักหนังสือเล่มนี้มาก ๆ เหมือนกัน แต่โชคดีเหลือเกินที่พวกเรายังไม่ได้อ่านมัน เพราะถ้าอ่านเราคงยังคงปวดหัวกับคำศัพท์ยาก ๆ จนไม่มีเวลามาเขียนรีวิวแน่ ๆ

ภาพยนตร์ดูนเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือนวนิยายดังกล่าว และกำกับโดย Denis Villeneuve จากบทที่เขาเขียนร่วมกับ
Eric RothและJon Spaihts ทำให้เห็นภาพฉากต่าง ๆ ในเรื่อง สวยงามมาก ๆ และอธิบายจินตนาการออกเป็นภาพได้ดีทีเดียว
ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า “Dune” เขียนถึงเรืื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ไกลมาก ๆ ซึ่งมนุษยชาติได้พัฒนาไปในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์และวิวัฒนาการในด้านของจิตวิญญาณไปมากแล้ว

 ดู รีวิว dune ออนไลน์ ฟรี หนัง

Atreides เป็นตระกูลหนึ่งของจักรวรรดิ ในเรื่องของ Dune โดยตระกูลนี้ปกครองดาวเคราะห์ทะเลทรายแห่งอาร์ราคิส ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่เรียกว่า “the spice” ซึ่งเป็นสารเสพติดเหมือนน้ำมันดิบในการเดินทางข้ามอวกาศ และเป็นสารที่สำคัญมาก ๆ ในจักวาลของดูน

หนังหลายเรื่องของ ผู้กำกับ Villeneuve ที่ทางบรรณาธิการได้ดู เป็นสไตล์ที่ Mood and Tone คล้ายกับหนังเรื่องนี้พอสมควร แล้วเป็นเรื่องที่พวกเราชอบกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น Arrival หรือ Blade Runner 2049 ซึ่งผู้อำนวยการสร้างเลือกผู้กำกับได้ดีมาก ๆ ในความเห็นของทีมบรรณาธิการ

ถึงแม้ทีมผู้สร้างจะบอกว่าหนังดีเพียงแค่ครึ่งเดียวจากสิ่งที่หนังสือได้ทำไว้ แต่ทีมบรรณาธิการเห็นว่าดีมากกว่าครึ่งแน่ ๆ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเรียกว่าเป็น Dune Part 1 ซึ่งทางทีมบรรณาธิการเพิ่งมารู้ภายหลังว่ายังเหลืออีกหลายภาคมาก ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนดูพวกเราคาดหวังว่าจะได้เห็นฉากบู้สุดแอ๊คชั่นในภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะนักแสดงแต่ละคน ขึ้นชื่อด้านฉากแอคชั่นสุด ๆ รวมถึงนักแสดงนำอย่าง “Timothée Chalamet” ที่พวกเราติดใจในภาพยนตร์เรื่อง THE KING ที่บู้ได้มันส์หยด รวมทั้ง “เจสัน โมโมอา” จากอควาแมน และซีรีส์แอคชั่นสุดระทึกใจอย่าง SEE และนักแสดงท่านอื่น ๆ

แต่ดูนพาร์ท 1 นีิ้ยังแทบจะไม่ค่อยเห็นฉากบู้แอคชั่นมากนัก เป็นไปในแนวทางเนื้อเรื่องเสียมากกว่า ซึ่งก็เป็นสไตล์หนังเนือย ๆ ที่บีบชวนสงสัยตามแบบฉบับของ Villeneuve ผู้กำกับ แต่ทีมบรรณาธิการเชื่อว่าต้องมีแน่ ๆ ในหนังเรื่องนี้ เพียงแต่ยังไม่ใช่ในภาคนี้นี่เอง

  • Zendaya ในหนังเรื่อง Dune ดูรีวิวหนังฟรีออนไลน์
  • บาร์ติสต้าในหนังเรื่อง ดูน ดูรีวิวหนังฟรีออนไลน์
  • Zendaya ในหนังเรื่อง ดูน ดูรีวิวหนังฟรีออนไลน์
  • ทิโมที่ ในหนังเรื่อง ดูน ดูรีวิวหนังฟรีออนไลน์
  • ทิโมที่และรีเบคก้า ในหนังเรื่อง ดูน ดูรีวิวหนังฟรีออนไลน์

นักแสดงจำนวนมากของ Villeneuve รวบรวมตัวละครของ Herbert ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความสำคัญไปกับบทและเรื่องราวมากกว่านำเสนอผ่านนักแสดง ถึงแม้นักแสดงที่มีจะคุณภาพคับแก้ว แต่ทุกคนผสานกันอย่างลงตัว
Timothée Chalametหนุ่มฝรั่งเศสหน้าหล่อสำเนียงชวนฟังในบทบาทของ Paul Atreides ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจ ตัวละครของเขาตระหนักถึงพลังของเขาและเข้าใจวิธีติดตามชะตากรรมของเขา 
ออสการ์ ไอแซค อีกหนึ่งในนักแสดงสายบู้ เล่นในบทบาทดยุคพ่อของพอล 
รีเบคก้า เฟอร์กูสัน อีกหนึ่งในแคสติ้งที่ดีมาก ๆ ด้วยความทั้งลึกลับและมีพลังที่เราอธิบายไม่ถูกเหมือนกับบทบาทเจสสิก้า แม่ของพอล 
Zendaya เป็นอีกหนึ่งในคนที่ถูกพูดถึงในหนังเรื่องนี้ และคิดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนอะไรได้อีกเยอะในอนาคต

ในตอนแรก มีข้อตกลงของทาง Warner ที่จะนำภาพยนตร์เรืองนี้ เข้าสู่สตรีมมิ่งในเวลาพร้อม ๆ กันกับที่ฉากในโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับบอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นแบบให้เกียรติต่อประสบการณ์ที่มีในโรงภาพยนตร์ ตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันหมายความอย่างไร แต่พอได้ดู ดูนแบบเต็ม ๆ คิดว่า “อ่อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง” ภาพที่ตระการตาการเล่าเรื่องที่มีมิติ และมีการแทรกไปด้วยการพูดถึงภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ อย่างแนบเนียน

กล่าวโดยสรุปแล้ว

ภาพยนตร์เรื่อง Dune ดู แล้วก็จะเข้าใจว่า เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชม แต่ต้องตั้งใจดูมันจริง ๆ ให้เวลากับมัน ไม่ใช่แค่ตอนดูเพียงเท่านั้นนะ หลังจากดูจบแล้วเราควรหาเวลามานั่งพินิจพิจารณาจริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และผู้กำกับรวมทั้งผู้เขียนต้องการที่่จะส่งสารอะไรให้พวกเราที่เป็นผู้ชมดู

เข้าฉายวันที่ 22 ตุลาคม ทาง HBO MAX

Editor's team Bigdream
Editor's team Bigdreamhttp://bigdreamblog.com
ทีมบรรณาธิการ บิ๊กดรีม มีเดีย และ สำนักพิมพ์บิ๊กดรีม พวกเราผลิตสื่อที่ขับเคลื่อนความหลงไหลในความฝันและแรงบันดาลใจ

Similar Articles

Comments

Leave a Reply

Instagram

ที่ปรึกษาการตลาด / จัดอีเว้นท์ / ที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ | ปรึกษา | กฎหมาย | ธุรกิจ การตลาด อีเวนต์

Most Popular