ไอน์สไตน์เขียน หนังสือไอน์สไตน์ | out of my later years

Reading Time: < 1 minute

ไอน์สไตน์เขียน เอง | ไม่ต้องพึ่งสายตรงเล่มนี้สุดน่าอ่าน !!! หนังสือไอน์สไตน์ ที่เล่าถึงชีวิต การเมือง สงคราม มาอ่านกันดูว่าเขามีมุมมองอย่างไร ?


ไอน์สไตน์เขียน บทความและถูกเรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ “Out of my later years” และชื่อเป็นภาษาไทยคือ “เขียนไว้เมื่อเป็นไม้ใกล้ฝั่ง”
ตอนแรกผมก็สงสัยว่าทำไมต้องเป็นชื่อภาษาไทยแบบนี้ เพราะมันดูเจ้าบทเจ้ากลอนมาก ๆ
แต่พอได้อ่านใจความของหนังสือว่า ไอน์สไตน์ ต้องการจะสื่ออะไร
“เขียนไว้เมื่อเป็นไม้ใกล้ฝั่ง” คือคำที่เหมาะที่สุดแล้วในหนังสือเล่มนี้

เพราะมันกลั่นกรองมาจาก ประสบการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ
ผู้ที่เกิดที่ประเทศเยอรมัน แต่ช่วยคิดค้นอาวุธเพื่อป้องกันความอันตรายจากชาวเยอรมัน
(ก่อนที่จะย้ายสัญชาติมาเป็นสัญชาติอเมริกาในเวลาถัดมา)

ไอน์สไตน์เขียน-หนังสือของไอน์สไตน์-out-of-my-later
ไอน์สไตน์เขียน -หนังสือของไอน์สไตน์-out-of-my-later

“… เราช่วยกันสร้างอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาก็เพื่อป้องกันมิให้ศัตรูของมนุษยชาติบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา
ซึ่งตามความคิดของพวกนาซีก็คือการทำลายล้างและการกดคนลงเป็นทาส เรามอบอาวุธชนิดนี้ให้แก่อเมริกันและชาวอังกฤษก็เพื่อเอาไว้ปกป้องมนุษย์ทั้งโลก ปกป้องสันติภาพและเสรีภาพ…”

หนังสือ Out of my later years เป็นเล่มที่เราจะได้เห็นว่าเขามีมุมมองต่อสงครามอย่างไร เพราะในช่วงชีวิตของเขาอยู่ตรงกลางระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นคนที่พลิกเกมสงครามก็ว่าได้

เขาคือผู้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยระเบิดปรมาณูอันทรงอานุภาพ เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ไอน์สไตน์ได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ (Franklin Delano Roosevelt) เกี่ยวกับแร่ยูเรเนียมที่สามารถนำมาสร้างลูกระเบิดซึ่งมีพลังงานการทำลายล้างรุนแรง เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงคราม และนำสันติภาพ มาสู่โลกอีกครั้ง ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตกลงทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกลงที่เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้คนเสียชีวิตทันทีกว่า 60,000 คน และเสียชีวิตภายหลังอีกกว่า 100,000 คน

สิ่งที่ทรงคุณค่าจาก ไอน์สไตน์เขียน

หลังจากชนะสงครามจากระเบิดที่มากไปด้วยอานุภาพ ที่ไอน์สไตน์คิดว่าจะเป็นจุดที่ทำให้โลกสงบสุขได้ แต่สิ่งที่เขาค้นพบและเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ก็คือ
“…แต่จนแล้วจนรอดเราก็ยังไม่เห็นว่า มีการประกันความปลอดภัยให้แก่สันติภาพและเสรีภาพเพื่อประเทศต่างๆ ตามที่สัญญาไว้ในกฎบัตรแอ๊ตแลนติกแต่ประการใด…”

นั่นชี้ให้เห็นว่าเขามีมุมมองที่ไม่ได้รักการทำสงครามมากนักและสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่เขาต้องการจะทำให้โลกสงบสุขจากสิ่งที่เขาสร้างจริง ๆ

“… ผมไม่แน่ใจว่าสงครามโลกครั้งที่สามจะมีขึ้นเมื่อไหร่ แต่แน่ใจว่าหากมีครั้งที่สี่ เราจะต่อสู้กันด้วยก้อนหิน… “

อีกวลีที่ ไอน์สไตน์ เขียนถึงความรุนแรงจากสงครามในช่วงชีวิตของเขา และการมองการณ์ไกลว่าถ้ายังมีสงครามอยู่ในโลกอีกพวกเราจะไม่เหลืออะไรจริง ๆ

หนังสือเล่มนี้นอกจากเป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่งแแล้ว
ยังเป็นเล่มที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ดราม่า และคุณค่า ของช่วงเวลาและประสบการณ์ของไอน์สไตน์ผู้ที่เป็นบุคคลแห่งศตวรรษ (โดยนิตยสาร TIME)

ชีวิต การเมือง รวมทั้งสังคม ผ่านมุมมองผ่านสิ่งที่ ไอน์สไตน์เขียน เราจะได้เห็นว่าเขาคิดอย่างไร มองอย่างไรและพูดอย่างไรในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีบทหนึ่งที่ผมประทับใจ และบ่งบอกตัวตนของเขาได้ดีทีเดียวครับ

มีครั้งหนึ่งที่ภรรยาของไอน์สไตน์แนะนำว่า
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยไหม จะมีแขกมาหาเราที่บ้านนะ”
แต่ไอน์สไตน์ตอบได้โดนใจผมอย่างจังและทำให้ผมฉุกคิดตามเลยครับ

“ขึ้นไปข้างบน เข้าไปในห้องแล้วเลี้ยวขวา เปิดตู้เสื้อผ้าก็จะเจอเสื้อผ้าผมอยู่ตรงนั้น แต่ถ้าเขามาหาผม, ผมก็นั่งอยู่ที่นี่แล้ว”

แค่ประโยคสั้น ๆ ก็ทำให้เห็นว่าคนแบบเขาให้คุณค่ากับเรื่องใดในชีวิต และอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญ

สุดท้าย ในช่วงเวลานี้มีคนพูดถึงไอน์สไตน์มากมาย

ทั้งถูกโยงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หรือผลประโยชน์ส่วนรวม ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีทั้งนั้นเพราะมันทำให้บุคคลคนนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
เมื่อเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทำให้เราหวนกลับมาสนใจในสิ่งที่เขาทำจริง ๆ เขาเปลี่ยนแปลงโลกยังไงได้บ้าง เขาตัดสินใจอย่างไร และที่สำคัญเขาคือใครจริง ๆ มากกว่าใครเป็นทายาทของเขา

ไอน์สไตน์ในมุมมองของผม เป็นบุคคลที่มีหัวจิตหัวใจเพื่อส่วนรวมคนหนึ่ง คนที่ฉลาด ๆ มันง่ายมาก ๆ เลยที่จะนำความรู้เพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่ไอน์สไตน์มองเห็นถึงผลกระทบที่เหนือกว่าตัวเขา และเขามองมันว่าเขาสามารถช่วยอะไรได้บ้าง? จึงออกมาเป็นทฤษฏีที่เปลี่ยนโลกและเปลี่ยนผู้ชนะของสงครามไปทีเดียว

ถึงแม้การชนะสงครามในครั้งนั้น จะไม่ได้นำผลลัพธ์ที่เขาต้องการ 100% คือโลกที่สงบสุข สันติภาพ แต่เราไม่อาจนำผลลัพธ์ในวันนี้ไปตัดสินเจตนาดีของเขาในวันนั้น และการกระทำของเขานำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในสังคม.

อ่านรีวิวหนังสือเล่มอื่น

อย่าลืม follow Social media ของเรานะครับ |

Albert-Einstein-PNG-Images
ไอน์สไตน์เขียน หนังสือไอน์สไตน์ | out of my later years
บทรีวิว
แค่ดูชื่อผู้เขียนก็ควรค่าแก่การอ่านแล้วหละครับ หนังสืออ่านง่ายไม่ยากจนเกินไป แปบเดียวจบ เล่มเล็ก ๆ พกง่ายครับ
เนื้อหา บท การเล่าเรื่อง
8
Design, CG, Mood and Tone
8
ตรรกะของหนัง Logical
10
ความบันเทิง Entertianment
6.2
ผู้เขียน
10
Reader Rating1 Vote
9.6
8.4
8
karnnikro
karnnikro
MD of NIKRO GROUP CO.,LTD. และบรรณาธิการบริหาร BIGDREAMBLOG | License holder TEDxBangKhunThian | ที่ปรึกษาประธาน กมธ พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน | MBTI - ENFP | Entrepreneurship Degree | อยากได้สิ่งที่ไม่เคยได้ต้องทำสิ่งที่ไม่เคยทำ | รักแมววว

Related Stories

12,290แฟนคลับชอบ
2,031ผู้ติดตามติดตาม
3,123ผู้ติดตามติดตาม
16,740ผู้ติดตามติดตาม
145 ผู้ติดตาม
ติดตาม

Discover

ยูเครน ครบ 1 ปีของการรุกราน

ยูเครน : 1 ปี ปูติน รุกราน #ยูเครน ตอนนี้ไปทางไหน? สถานการณ์เป็นอย่างไร? อะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วปูตินได้สิ่งที่ต้องการหรือยังบทความนี้จะสรุปสถานการณ์ให้ครับ

รีวิวแอนท์แมน Ant-Man and the Wasp: Quantumania

แอนท์แมน 3 กับการเปิดตัว แคง เดอะคองเคอร์เรอ หรือ แคง ผู้พิชิต กับการเริ่มต้นของ เฟส 5 อย่างเป็นทางการ ซึ่งโชว์ความสามารถของตัวร้ายของเฟสนี้ว่าเลวร้ายแค่ไหน และนี้คือรีวิวของเราครับ

ยอดมนุษย์ดาวเศร้า | หนังสือเยียวยาความโดดเดี่ยว

มีวาฬอยู่ตัวหนึ่ง ที่ถูกพบว่ามันอยู่ตัวเดียวตลอดมาเป็นวาฬที่นักวิทยาศาสตร์ติดตามมันเป็นเวลามากกว่า 20 ปีหลังจากที่พวกเขาค้นพบคลื่นความถี่ที่สูงถึง 52Hzจึงตั้งชื่อวาฬตัวนี้ว่า 52Hz วาฬ ใช้คลื่นความถี่ในการสื่อสารถึงกันและกัน แต่เจ้า 52Hz มีความถี่ที่สูงกว่าตัวอื่นที่จะมีความถี่ประมาณ 15-25 Hz ทำให้ตัวอื่นไม่ได้ยินเสียงมัน และเช่นเดียวกันมันก็ไม่ได้ยินเสียงของวาฬตัวอื่น วาฬ...

การบริหาร แบบมี สุนทรียะ หลักสูตร ATA: Topart by UTCC

หลักสูตรแรกในประเทศไทยของผู้บริหารระดับสูง ATA : Aesthetics Top Executive Program in Aesthetics and Art ที่จะได้เรียนรู้ถึงความเป็นสุนทรีย์

When Snowflakes Fall: หนาวนี้เปลี่ยนไป เพราะกำลังใจไม่เหมือนเดิม

When Snowflakes Fall: หนาวนี้เปลี่ยนไป เพราะกำลังใจไม่เหมือนเดิม ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก "River City Bangkok" กับงานที่รวมศิลปินชื่อดังมาตีความหิมะที่ต่างกัน ในนิทรรศการ When Snowflakes Fall เมื่อหิมะร่วงหล่น

10 ทักษะที่ตลาดต้องการ ในขณะนี้

ทักษะที่ตลาดต้องการ ในขณะนี้ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากถ้าเทียบกันในทศวรรษนี้กับทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีการแข่งขันกันสูงมากในเรื่องของบุคคลากร นำมาซึ่งตลาดฟรีแลนซ์ที่ใหญ่ และมีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งวันนี้ผมหยิบทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดในยุคสมัยนี้มาแบ่งปันกันครับ ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก Snoolik เว็บไซต์ที่เป็นเทรนด์ในการทำเว็บไซต์ครับ

Popular Categories

Comments

Leave a Reply