Reading Time: 3 minutes

Reader Rating2 Votes

7.7

8.9

ดูได้ทาง

Shang Chi รีวิวนี้ จะเต็มไปด้วย ความอวยเพราะว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างได้แบบสุดเหนือความคาดหมาย เหนือจนต้องร้องว๊าวไปตลอดทั้งเรื่อง และเป็นหนังของ มาร์เวล ที่ผมรู้สึกว่าดีที่สุดหลังจบศึกจาก ธานอส มาเลยล่ะครับ จะพูดว่าชอบมากกว่า สไปเดอร์แมน โนเวย์โฮมก็ว่าได้ และนี้คือรีวิวของเราครับ

Shang Chi เรื่องย่อ

ก่อนเริ่มรีวิว ผมของเล่าเรื่องของ ชางชี กันสักนิด เพราะว่าหากไม่ได้ตามคอมมิกมาก็แทบจะไม่รู้จัก ชางชี กันเลย และก่อนภาพยนตร์จะออกมาให้เราดู ผมก็นึกภาพไม่ออกว่ามันจะสนุกอย่างไรกับภาพยนตร์เรื่องนี้ และแน่นอนไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดแบบนี้ นักวิจารณ์หลาย ๆ คนทั่วโลกบอกกันตั้งแต่ยังไม่ได้ดูหนังว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ จนหลังจากหนังฉาย Simu Liu นักแสดงบทนำใน Shang Chi ก็ออกมาทำมีมล้อเลียนคนที่บอกว่าหนังจะเจ๊ง เพราะความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นเลย

คือเรื่องมันเป็นอย่างงี้

เรื่องราวของ Shang Chi เริ่มมาจาก เดอะแมนดาริน (ตัวจริงไม่ใช่นักแสดงที่ไปปรากฏใน Ironman 3) ผู้ครอบครองแหวน 10 วง ที่ทำให้เขาเป็นอมตะ (หรือเทียบเท่าอมตะ) ต้องการขยายขอบเขตอำนาจของตัวเองและมีพลังที่มากขึ้น จนไปค้นพบ ดินแดนวิเศษ Ta Lo และที่แห่งนั้นทำให้ เดอะแมนดาริน (รับบทโดย Tony Chiu-Wai Leung) ได้พบกับ แม่ของ ชางชี หรือ Li (รับบทโดย Fala Chen) และได้ต่อสู้กันและเดอะแมนดาริน แพ้ไปอย่างราบคาบสร้างความประหลาดใจและประทับใจแก่ตัวเขาอย่างมาก และการต่อสู้นี้เองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้ง Li และ เหวินหวู่ ชื่อจริงของเดอะแมนดาริน ตกหลุมรักกันนับตั้งแต่นั้น

เหวินหวู่ หลังจากแต่งงานกับ Li ก็ได้หันหลังกับอำนาจ ที่ตัวเองเคยแสวงหามาสมัยสวมแหวน 10 rings ซึ่งเขาก็ได้ถอดแหวนนั้นเก็บไว้แล้วด้วย แต่สิ่งที่เขาได้ทำมา เขาสร้างศัตรูไว้มากมายสมัยที่ยังขยายอำนาจของตัวเองจึงทำให้มีคนมาแก้แค้นและนำมาซึ่งการแลกชีวิตของภรรยา Li ในท้ายที่สุด

ซึ่งนั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เดอะแมนดารินกลับมาสวมแหวนแก้แค้นอีกครั้ง และเขาได้ฝึก ชางชี ผู้เป็นลูกชายให้เป็นนักฆ่า และ ซิ่วหลิน (รับบทโดย Meng’er Zhang) ผู้เป็นลูกสาวของเหวินหวู่ไม่ได้รับการฝึกเพียงเพราะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็ทะเยอทะยานในการฝึกสู้รบจากการครูพักลักจำนั้นเอง

และเมื่อถึงเวลาอันสมควรเดอะแมนดาริน ส่งให้ ชางชีไปแก้แค้นคนที่ฆ่าแม่ของเขา และหลังจากนั้นชางชีก็ไม่เคยกลับไปหาพ่อของเขาอีกเลยนับตั้งแต่นั้น แต่เดอะแมนดารินยังคงไม่มูฟออนจากเรื่องในอดีต ทำให้เขาต้องไปตามตัว ชางชีและ ซิ่วหลินที่หนีออกจากบ้านไปเช่นกัน กลับมาตามหาแม่ตัวเองอีกครั้ง

รีวิวของเรา

ถ้าอ่านจากเรื่องย่อที่ผมสรุปมาให้ เนื้อเรื่องหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือปัญหาครอบครัวที่เป็นปมขัดแย้งของเรื่อง การที่ตัวละครเปิดมาด้วยความธรรมดา ตรงกับความคิดผมก่อนดูแล้วจบด้วยความอลังการงานสร้างทั้งทักษะ ในการสู้รบของเขาและฉากของดินแดนที่เหนือจินตนาการมาก ๆ มันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในหนังที่สร้างได้เหนือความคาดหมายสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ

เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากการดีดนิ้ว คนหายไปครึ่งโลกของ Thanos ซึ่งจุดนี้หนังชี้ให้เห็นว่าจักรวาลหลักของมาร์เวลนั้นมีความ เปราะบางมากแค่ไหน ซึ่งเราจะได้เห็นว่าภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นหลังจากการดีดนิ้วก็พูดถึงโลกที่เปราะบาง อย่างใน Eternals และ Spiderman No way home หรือแม้กระทั่งในซีรีส์ของ Wanda และ Hawkeyes ด้วย

สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้

เราถอดบทเรียนจากหนังหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งเรื่องนี้เราเห็นว่ามันดำเนินเรื่องหลักผ่านปมของครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ จะมีบทซึ้ง ๆ หลาย ๆ บทอย่างเช่นที่ ชางชี พูดกับพ่อว่า “เราเสียแม่ไปแล้ว แต่ตอนนี้ครอบครัวต้องการพ่อ” ถึงแม้การพูดแบบนี้กับเดอะแมนดารินจะไม่ทำให้เขาหยุดความเศร้าและได้สติ แต่มันทำให้เขาได้ฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนท้ายเหมือนกัน

อีกสิ่งหนึ่งที่ได้เลยก็คือ ไม่ว่าเราจะหนีไปไกลแค่ไหน เราไม่สามารถหนีจากสิ่งที่เราเป็นได้ ชางชี หนีไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดามาครึ่งชีวิต ที่ทำให้เขารู้จักกับ เคที่ (ที่รับบทโดยอควาฟิน่า) และทำงานจอดรถที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลาสิ่งที่เขาเป็นมาตลอด สิ่งนั้นมันไม่ได้หายไปจากตัวเขาเลย

ตัวละครเคที่ เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่ให้บทเรียนเราเหมือนกัน ด้วยความที่เป็นคนเก่งและกล้าหาญแต่เขาบอกว่า เขาเองถ้ารู้ว่าจะทำอะไรได้ไม่ดีก็จะทิ้งไปเลย แต่คนใน Ta Lo ก็สอนเคที่ว่า “ถ้าคุณไม่เล็งเป้าอะไรเลย คุณจะยิงไม่โดนอะไรเลย” จุด ๆ นี้ก็สอนเราเช่นเดียวกัน

ก่อนจะจบรีวิวในวันนี้

มีตัวละครสองตัวที่ผมชอบเป็นพิเศษ ก็คือ ซิ่วหลิน น้องชางชี (รับบทโดย Meng’er Zhang) ซึ่งเปิดมาตอนแรกในมุม คนเก่งและโกรธปนน้อยใจพี่ชายอยู่ลึก ๆ แต่หลังจากกลับบ้าน ก็โชว์มุมเด็กหญิงน่าเอ็นดูได้หลาย ๆ ซีน

อีกตัวละครหนึ่งที่ทำให้หนังลงตัวก็คือ อควาฟิน่า หรือ Katy ซึ่งตัวละครนี้ทำให้หนังมันลงตัวมาก ซึ่งปรกติผมจะชอบหนังสไตล์ที่มีเทสต์ตลกแบบเคที่ (จริง ๆ รวมถึง เทรเวอร์ ที่รับบทโดย Ben Kingsley ด้วยนะ) มันยิ่งทำให้ผมชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ไปอีก

สุดท้าย

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากบู้ที่สุดตระการตา ที่สุดเรื่องหนึ่งในเครือมาเวลล์ นับเฉพาะหนังเดี่ยวนะ เป็นรองแค่ดอกเตอร์เสตรง และสไปเดอร์แมนเลยล่ะ สำหรับมุมมองผม ความสามารถของ ชางชี ผมเชื่อว่าไม่เป็นสองรองใครใน Avenger ซึ่งมันทำให้ผมอยากดูหนังภาครวมของ เฟตนี้แล้วล่ะ

แล้วคุณล่ะครับดูเรื่องนี้แล้วเป็นอย่างไร ช่วยคอมเมนต์บอกกันนิดหนึ่งครับ