แต่งงาน เป็นพิธีในฝันของใครหลาย ๆ คนโดยเฉพาะสาว ๆ ซึ่งเป็นพิธีที่สร้างความผูกพันธ์ทางใจ และหนึ่งในพิธีกรรมสำคัญก็คือการสวมแหวน แต่แล้วทำไมต้องสวม แหวนแต่งงาน ข้างซ้าย? วันนี้เราจะมาไขคำตอบกัน
นิ้ว แหวนแต่งงาน vena amoris เส้นเลือดแห่งความรัก
vena amoris ในภาษาละติน เป็นชื่อเรียกของพิธีกรรมนี้ แต่แท้จริงแล้วเกิดจากความรู้ที่ผิด
เดิมทีพฤติกรรมของเรา
การจะดูว่าใครมีครอบครัวหรือไม่เดิมทีเรามักจะพูด ๆ กันว่าให้สังเกตที่นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนอยู่หรือไม่?
แล้วทำไมต้องเป็น นิ้วนางข้างซ้าย เป็นนิ้วโป้งหรือนิ้วกลางไม่ได้หรอ?
ก่อนไปไขข้อสงสัย เดิมทีที่อังกฤษ ช่วงศตวรรษที่ 17 การใส่ แหวนแต่งงาน ที่นิ้วโป้งหรือนิ้วกลางนั้นเป็นเรื่องปกติ แล้วความคิดที่ใส่แหวนนิ้วนางมาจากไหน ?
ทฤษฎีแรก
การสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายในทฤษฎีแรก บอกว่า โดยส่วนใหญ่มนุษย์จะถนัดแขนข้างขวามากกว่าข้างซ้ายการสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเกิดขึ้นจากค่านิยมชายเป็นใหญ่ และผู้หญิงต้องคอยตามสนับสนุนสามีของตน จึงทำให้ผู้ชายสวมแหวนให้ผู้หญิงในทีแรก และหลังจากนั้นค่อยมีประเพณีสวมแหวนให้แก่กันและกันในภายหลัง เพราะว่าแขนซ้ายเป็นแขนที่ด้อยกว่าแขนขวานั้นเอง
อีกทั้งนิ้วนางยังเป็นนิ้วที่ไม่ค่อยได้ใช้งานในเชิงกายภาพมากนักด้วย ซึ่งแสดงถึงสัญญาลักษณ์ ของการยอมจำนนของภรรยาต่อสามี ซึ่งผู้ชายที่แต่งงานแล้วในอเมริกาเพิ่งมีค่านิยมในการสวม แหวนแต่งงาน ช่วงปี 1940 – 1950 นี้เอง
นี้เป็นเพียงทฤษฎีที่คนในยุคหลัง ๆ คิดกันขึ้นมาเพื่อตอบคำถามของคำถามนี้เท่านั้น
แต่ความจริงแล้วทำไมถึงต้องสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้าย
ข้อความหลังจากนี้มันจะเพิ่มความโรแมนติกให้นิ้วข้างซ้ายของคุณมากขึ้น และคุณจะรู้สึกรักนิ้วนี้มากขึ้น โทมัส บราวน์ เขียนเล่าเรื่องนี้ในศตวรรษที่ 17

นิ้วนางข้างซ้าย ถูกเรียกว่า vena amoris ในภาษาละติน ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยก็คือ “เส้นเลือดแห่งความรัก” ซึ่งเป็นความรู้ของชาวโรมันเกี่ยวกับกายวิภาคของมนุษย์ ซึ่งบอกว่า นิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วเดียวที่มีเส้นเลือดดำต่อตรงจากปลายนิ้วไปถึงหัวใจของมนุษย์
ซึ่งในยุคกลางของประเทศอังกฤษพิธีแต่งงานที่เมือง ซอลส์บรี จะมีบทสวดที่ทำให้เจ้าบ่าวสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายต่อเจ้าสาว เพื่อเป็นการเชื่อมโยงถึงชาวโรมันในอดีตอีกด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของนิ้วนางข้างซ้ายที่ต่อตรงไปถึงหัวใจและชาวโรมันในอดีต นั้นเป็นความรู้ที่ผิดเกี่ยวกับกายวิภาคของมนุษย์
แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงมีความเชื่อแบบนี้อยู่ อาจเพราะว่ามันทำให้รู้สึกโรแมนติกขึ้นแค่นั้นล่ะมั้ง

สรุปในปัจจุบันเทรนด์ แต่งงาน
ปัจจุบันความสำคัญของการ แต่งงาน มีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อย ๆ แต่มนุษย์เองก็ยังมีความต้องการรู้สึกเป็นที่รักหรือเป็นส่วนหนึ่งของใครสักคนอยู่มาช้านานเพื่อไม่ให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว การให้ของแทนใจ อย่างสร้อยคอ กำไรข้อมือรวมทั้งแหวนเอง มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะมันยังเป็นสัญญาลักษณ์ทางใจชั้นดีเหมือนกัน เวลาเรารู้สึกโดดเดี่ยว การเห็นของแบบนี้จากคนที่เรารัก และเขารักเรามันทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยวได้เหมือนกัน
ใกล้วาเลนไทน์แล้ว การมอบของขวัญให้คนที่เรารัก เป็นคำพูดดี ๆ หรือของแทนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ช่วยให้ความสัมพันธ์มีชีวิตชีวาขึ้นเหมือนกัน และการมอบของขวัญให้คนสำคัญแม้เพียงเล็กน้อยย่อมดีกว่า การที่ไม่รู้ว่าเราจะมอบของต่าง ๆ ให้ใคร
สุดท้ายหากเข้าข่ายไม่รู้จะมอบความรักให้ใครเฉกเช่นเดียวกับแอดมิน
มองไปที่กระจกมอบความรักให้เขาคนนั้นก็ได้นะครับ!
[…] อ้างจากแหล่งที่มา: … […]
0
[…] อ้างจากแหล่งที่มา: … […]
0