บทสัมภาษณ์: NORMTHING ยุคที่การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ กับการเริ่มต้นที่ไม่ปกติ

on

|

views

and

comments

NORMTHING คือคำที่หลาย ๆ คนอาจรู้สึกคุ้นโดยที่ไม่รู้จักมาก่อน เพราะ NORM THING นั้นมาจากคำว่า Normal บวกกับ Thing ซึ่งหมายความว่า “สิ่งปกติ” แล้วสิ่งปกตินั้นหมายความว่าอย่างไร และ NORM THING คืออะไร? วันนี้เรามาทำความรู้จักองค์กรนี้กัน!

วันนี้เราอยู่กับการสัมภาษณ์ กานต์ นิโครสหเกียรติ์ ผู้ก่อตั้ง NORM THING Consulting Firm และ เป็นผู้ถือใบอนุญาตจาก TEDxBangKhunThian อีกทั้งเป็นกรรมการบริษัท นิโคร กรุ๊ป จำกัดอีกด้วย ซึ่งยังเป็นคนรุ่นใหม่ที่มาดูประสบการณ์ที่ทำแล้วเรียกว่าประสบการณ์เกินอายุจนน่าประหลาดใจเพราะเหมือนชีวิตเขาจะเริ่มต้นทำสิ่งต่าง ๆ ในวันที่ยังเด็กกว่านี้มาก ทำให้กานต์ เคยได้รับเกียรติจากรัฐสภาให้เป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการเลยด้วยซ้ำ

NORMTHING คืออะไร และทำไมต้อง NORMTHING

กานต์ : จริง ๆ NORM THING เป็น Unit ที่ผมตั้งขึ้นตั้งแต่ยังไม่มี Covid-19 ที่แพร่ระบาดเลยครับเพราะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หากเราพอจะจำกันได้มันจะมีช่วงหนึ่งที่ดิจิทัล ทรานเฟอเมชั่นบูม ๆ และเราเองเป็นคนที่เชื่อใน Resilience ในการทำงานมาก ๆ ด้วย คือการที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และในช่วงปี 2019 นั่นเป็นปีที่หยิบมาทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ แต่มาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตอนวันที่ 30 หรือ 31 มกราคม 2020 ช่วง ๆ นั้นครับ สมัยนั้นเราจะได้ยินคำว่า NEW NORM กันเยอะมาก จริง ๆ ความหมายของ NORMTHING มันก็คล้ายกับ NEW NORM ที่แปลว่า ความปกติใหม่นั่นแหละครับ แต่ของ NORM THING คือ “เปลี่ยนแปลงอีกแล้วหรอ ก็ปกติ” เท่ากับว่ามันจะเป็นแบรนด์ที่สามารถอยู่รอดคงกระพันได้ไปยังทุกยุคทุกสมัยถึงแม้ผมจะไม่อยู่แล้ว

NORM THING จุดเริ่มต้นคือสร้างมาเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีทักษะติดตัวในทุก ๆ สถานการณ์ คือผมเชื่อนะครับว่าคนที่อยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์ไม่ใช่คนที่มีทักษะที่เก่งที่สุด แต่คือคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุดต่างหาก อย่างน้อยเวลาคุณทำธุรกิจใด ๆ หลายคนอาจอยากเป็นที่ 1 ซึ่งไม่ผิด แต่คำว่าเป็นที่ 1 นั่นหมายความว่ามันมีที่เดียวไง แต่หากคุณเป็นธุรกิจกลาง ๆ ล่ะ ธุรกิจ Sun Set ล่ะ จะทำอย่างไร? เราไม่อยากปล่อยให้คนเหล่านี้หายไป แต่เราต้องการทำให้เขาปรับตัวกลับมายืนเด่นได้อีกครั้งหนึ่ง

NORMTHING TEAM SIRIRATH Consulting firm
NORMTHING TEAM SIRIRATH Consulting firm

ปัจจุบัน Norm Thing ให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น เราเปลี่ยนตัวเอง(ปรับตัวเห็นไหม ฮ่าฮ่าฮ่า) จากการเป็น Agency ไปยัง Creative Agency หรือแม้กระทั้ง Service ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดคือการจัดอีเวนต์ เป็น Event Agency ก็ทำมาแล้ว แต่ท้ายที่สุดเรามาถอดบทเรียนกันเองครับว่าลูกค้ามองเราเป็นอะไรกันแน่ เราได้รับคำชมจากลูกค้าในเรื่องไหนกันแน่ สรุปคือเรื่องของการให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่องโดยไม่หมกเม็ด จึงมาสรุปกันที่เราเป็น Consulting Firm นี่แหละ แต่เราไม่ใช่ Consulting ที่ทำอะไรไม่เป็นมีแต่คนเรียนเก่งนะครับ แต่เป็นเด็กกิจรรมที่เรียนเก่ง นั่นหมายความว่า เราดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ มามากพอที่จะให้คำปรึกษาใครได้ และหากให้เราลงมือ เราก็สามารถทำได้ เรียกได้ว่าเป็นที่ปรึกษาที่บู๊ได้ บุ๋นได้นั่นเอง

อบรม Curate Talk Like TED
อบรม Curate Talk Like TED

ปัจจุบันเรามีสายบริการที่หลากหลาย และทุกการบริการผมต้องรู้เองก่อนทั้งสิ้นที่จะให้บริการใครครับ และทีมงานก็มีประสบการณ์และมีความชำนาญในด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน เช่น เรื่องธุรกิจ ผมเองนี่แหละจบสายผู้ประกอบการมาโดยตรงและอยู่ในการรับทุน 1 ใน 15 คนทั่วประเทศ จากโครงการผู้ประกอบการรุ่นใหม่เพื่อสังคม ก็จะแตกอออกมาเป็นบริการเกี่ยวกับการตลาด กลยุทธ์และธุรกิจ

เรื่องความยั่งยื่นนี่ผมเองก็ได้รับทุนและใบประกาศจากตลาดหลักทรัพย์และ SASIN เรื่อง ESG Management ซึ่งเราก็มีบริการด้านความยั่งยืน ESG, CSR/CSV, SDGs Campaigning ด้วยเหมือนกัน

อีกทั้งอนาคตที่เรามองว่าจะเป็นกิจกรรมหลักของเราคือเรื่องกฎหมาย ผมเองก็ลงทุนไปเรียนที่นิติศาสตร์จุฬาเป็นปริญญาตรีอีกหนึ่งใบเพื่อให้เรามีความรู้ความเข้าใจด้านวิชาชีพนี้โดยตรง เพราะเรามองว่ามีธุรกิจอีกมากที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายจะเสียหายมากเพราะเรามีสิทธิจะได้รับสิ่งต่าง ๆ หรือเกาะป้องกันเราอีกมากหากเรารู้กฎหมาย และเกรดผมก็ดีทีเดียว ฮาฮ่าฮ่า

ท้ายที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือเราอยากทำให้มั่นใจว่า ลูกค้าที่มาไว้วางใจบริการของเรานั้นจะได้รับการบริการที่มี SPIRIT OF NORM ที่สุด ซึ่งเราตั้งเป็นค่านิยมของทีมเลยก็คือทุกคนต้องมี SPIRIT ที่แยกมาจากคำว่า Service mind, Performance, Integrity, Respect, Innovation and teamwork ครับ

TEDx มีอิทธิพลกับ NORMTHING มากแค่ไหน

กานต์: ตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องคิดเลยครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ NORMTHING มี มาจาก TED ทั้งสิ้น แต่เราปรับตัวให้มันเป็นองค์กรที่เข้าใจธุรกิจมากขึ้น เข้าใจบริบทไทยมากขึ้น เท่านั้นแต่ทุกอย่างทั้งแนวคิด ทัศนคติของทีม ค่านิยมขององค์กรต่อยอดมาจาก TED อย่างที่รู้กันว่าผมเองเป็นคนที่ อินกับ TED มาก ๆ ดั่งที่จะหาอ่านบทสัมภาษณ์อื่น ๆ (เช่น กานต์ นิโครสหเกียรติ์ License Holder แห่ง TEDxBangKhunThian)

ผมเริ่มทำกิจกรรมในนาม TEDx ตั้งแต่ปี 2017 หากจะบอกว่ามันไม่มีอิทธพลอะไรเลยในการทำงานคงเป็นเรื่องประหลาดแน่ ๆ เพราะสิ่งนี้อยู่กับเรามาจะเป็น 10 ปีแล้ว ด้วยเรามีการทำงานที่เชื่อไอเดีย แนวคิดที่ควรค่าแก่การแผ่และส่งต่อ เราเอาวิธีทำงานที่เราทำใน TEDx ต่าง ๆ มาปรับใช้ใน Norm Thing ครับ และทีมงานของเราแทบจะทั้งหมดคือคนที่ทำ TEDx ร่วมกับผมมาด้วยทั้งนั้น หากดูว่าสไตล์การทำงานของ TEDx ของผมนั้นเป็นอย่างไรก็จะมีความเป็น Local Friendly เข้าถึงง่าย แต่ทำงานอย่างมีระเบียบแบบแผนและมีมาตรฐานครับ

ครั้งหนึ่งในปี 2024 ผมได้รับทุนไปงาน TEDNext ที่อเมริกา ซึ่งมี 12 คนจากทั่วโลก และมี 1 คนจากประเทศไทย ซึ่งผมเป็นคนนั้นครับการได้รับทุนไปเข้าร่วมครั้งนี้เราได้เห็นมาตรฐานงานระดับโลกอย่าง TED ว่าเขาเตรียมงานกันอย่างไร Mood and Tone งาน TED เป็นอย่างไร ซึ่งมันส่งผลกับเส้นทางชีวิตและการทำงานของผมอย่างมากเลยครับ

KARNNIKRO TED
KARNNIKRO TED

อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณเริ่มต้นเส้นทางนี้ และอะไรที่จุดประกายให้คุณอยากพัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นอย่างทุกวันนี้?

กานต์: ความฝันครับ

ตอนเด็ก ๆ ผมเคยอยากโตขึ้นมาเป็นคนที่มีอิทธิพลในด้านที่ดีต่อสังคม ท้ายที่สุดแล้วเราเชื่อว่าการจะขับเคลื่อนอะไรได้ เราต้องมีความฝัน ความอยากรู้อยากเห็น และความกระหายที่จะเรียนรู้

ตอนมัธยม มีเพื่อนคนหนึ่งบอกกับผมผมยังจำได้แม่นเลยว่า เขาบอกว่าไม่ไช่เป็นคนเก่งที่สุดนะ แต่ผมเป็นคนใฝ่รู้ ความใฝ่รู้นี่แหละเป็นตัวขับเคลื่อนการใช้ชีวิตให้ความจริงเข้าใกล้ความฝันมากขึ้น

แต่หากเราไม่มีความฝัน เราอาจจะต้องมาหาวิธีคิดใหม่ ๆ ว่าเราจะดีกว่าเมื่อวานได้อย่างไรและโฟกัสในวันนี้ครับ

ผมเองถ้าใครรู้จักเป็นการส่วนตัว จะมีช่วงฟิต และช่วงไม่ฟิตเยอะมาก คืออ้วน ๆ ผอม ๆ เดี่ยว ๆ มีกล้ามเป็นอย่างงี้เรื่อย ๆ เพราะเราเป็นมนุษย์นี่เนาะ มันก็มีหย่อยยานกันบ้างในบางทีแต่ทุกครั้งที่เรามีอะไรจุดประกายเช่นอยากทำงานดี ๆ อยากไปงานใหญ่ ๆ เราก็จะพัฒนาตัวเองไปยังจุดนั้นครับ

เพราะผมเชื่อจริง ๆ ว่า เราไม่ได้ ได้สิ่งที่เราอยากได้ เราจะได้สิ่งที่เราคู่ควรจะได้

อีกคำที่ทำให้ผมมีประกายคือ “เวลาล่วงไป ๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่?” ถามตัวเองบ่อย ๆ ก็ช่วยกระตุ้นได้ครับ

ทำไมถึงมั่นใจว่าเราจะทำงานสิ่งต่าง ๆ ได้

กานต์: ตอนแรกผมก็ไม่มีความมั่นใจเท่าไหร่ แต่วิธีคิดของผู้ประกอบการคือ ทำไปก่อนแล้วค่อย ๆ ปรับไปเรื่อย ๆ ทำ ๆ ปรับ ๆ แก้ ๆ ถ้าพูดอย่างมีกลยุทธ์ก็คือการทำแบบ PDCA – Plan, Do, Check, Act ทำ ๆ ปรับ ๆ แก้ ๆ ไปเรื่อย ๆ มันก็ทำให้เราไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ดีกว่าที่จะต้องกลัวอะไรแล้วอยู่เฉย ๆ

อีกความมั่นใจคือการที่เราได้ลูกค้าที่เยอะขึ้น องค์กรใหญ่มากขึ้นและเราได้รับคำชมจริง ๆ อย่างเช่นงานที่ ศิริราช ปิยมหาราชการุณ ซึ่งใคร ๆ ก็รู้จักศิริราชใช่ไหมครับ แล้วทำไม ศิริราช ถึงต้องมาใช้บริการเราล่ะ นั่นเป็นงานที่เพิ่มพูมความมั่นใจ และอีกเรายังได้รับคำชมอย่างมากจากแต่ละงาน เราได้รับเชิญไปสอนที่ จุฬาฯ ซึ่งเป็นมหาลัยอันดับหนึ่งของประเทศเชียวนะ ไปมหาลัยขอนแก่น บ้าง ทำให้เราคิดว่าไอเราก็มีดีเหมือนกันนะเนี้ย

แต่อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อว่าเรายังมีเส้นทางให้ต้องเติบโตอีกเยอะมาก ๆ ในเส้นทางนี้ ถ้าเปรียบเทียบในอุตสหกรรมเดียวกัน เรายังมีภารกิจที่ต้องให้พิชิตเต็มไปหมดเลยครับ คิดก็สนุกแล้ว!

NORMTHING PORTFOLIO ABOUT NORMTHING
NORMTHING PORTFOLIO ABOUT NORMTHING

คุณมีวิธีอย่างไรในการเปลี่ยนความชอบส่วนตัวให้กลายเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน และรักษาความมุ่งมั่นนั้นไว้?

กานต์: ผมเชื่อและเชื่อแบบนี้มาโดยตลอดนะครับ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่กลม และซับซ้อน หมายถึงว่ามันไม่มีสูตรตายตัวของแต่ละคน แต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนความชอบเป็นเป้าหมายอาจจะจำเป็นสำหรับบางคน หรือบางสังคม แต่ก็อาจจะไม่ได้จำเป็นอะไรสำหรับบางคนหรือคนบางกลุ่มเช่นเดียวกัน อันนี้ขอออกตัวไว้ก่อนเลย

แต่หากอยากเปลี่ยนความชอบเป็นงานหรือเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น เราอาจจะต้องเริ่มมาจากว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ หรือเปล่า เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร หากเราได้ตรงนี้และอ่านดูแล้วมันมีความตื่นเต้น หรือทำให้เราขนลุกสู้ นั่นอาจแปลว่าเรามาถูกทางแล้วก็ได้ครับ

แล้วเราค่อย PDCA เหมือนเดิม Plan Do Check and act และหมั่นรีวิวตัวเองบ่อย ๆ

แน่นอนว่ามันจะมีช่วงเวลาที่เบื่อและอยากเทบ้างนั่นเป็นเรื่องปกติ แต่ให้เราสร้างนิสัยของเราคงวินัยของเราเอาไว้ให้ได้นั่นคือสิ่งสำคัญ อีกทั้งสื่อก็มีอิทธิพลมาก เลือกเสพสื่อในสิ่งที่เราอยากจะทำ อะไรที่ทำให้เราขี้เกียจก็งดไปก่อนในช่วงเวลาที่เราอยากทำอะไรบางอย่างครับ

NORMTHING TEAM
TEAM

การไม่กลัวที่จะล้มเหลวเป็นสิ่งที่หลายคนอยากพัฒนาในตัวเอง คุณมีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่กำลังกลัวที่จะก้าวออกจาก comfort zone ของตัวเองไหม?

กานต์: ชาเลนจ์ตัวเองครับ ผมชอบคิดว่าชีวิตเป็นเกมเก็บเลเวล มันทำให้เราสนุกขึ้นเวลาทำอะไร ล้มเหลวก็แค่นเท่านั้นก็แค่เริ่มใหม่ ตราบได้ที่เรายังไม่ตายเกมมันยังไม่จบมันเริ่มใหม่ได้เรื่อย ๆ

ผมเป็นคนที่สัมภาษณ์คุณท็อป BitKub บนเวที TEDx คำพูดของเขายังแนะนำผมตรงนี้ได้สำหรับใครที่มี Comfort Zone ที่แข็งมาก ๆ เขาแนะนำให้ลองสิ่งต่าง ๆ ที่ตัวเองกลัว ก่อนนอน ก็เป็นตัวช่วยที่สำคัญเหมือนกันนะครับ เพราะจะทำให้เราค่อย ๆ ปรับตัวกับความกลัวไปเรื่อย ๆ

ถ้าคุณมีคำแนะนำสั้น ๆ ให้กับผู้อ่าน Bigdreamblog.com ที่อยากเริ่มพัฒนาตัวเอง แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน คุณจะบอกอะไรเขา?

กานต์: คุณเชี่ยวชาญมากที่สุดในการเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครเป็นตัวคุณได้ดีเท่าคุณอีกแล้วครับ อย่าปล่อยให้ใครนิยามชีวิตเรา เราต้องนิยามชีวิตตัวเอง และเราจะนยามมันว่าอย่างไร มันก็ถูกหมดเพราะนั้นเองก็คือชีวิตเรา

และท้ายที่สุดถ้ามีโอกาสอย่าลืมมาใช้บริการ NORMTHING นะครับ

Editor's team Bigdream
Editor's team Bigdreamhttp://bigdreamblog.com
ทีมบรรณาธิการ บิ๊กดรีม มีเดีย และ สำนักพิมพ์บิ๊กดรีม พวกเราผลิตสื่อที่ขับเคลื่อนความหลงไหลในความฝันและแรงบันดาลใจ
Share this
Tags

Must-read

The Electric State รีวิว ...

The Electric State รีวิว...

Critical Thinking คิดเชิง...

การคิดเชิงวิพากษ์ (Criti...
spot_img

Recent articles

More like this

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่