วางแผนเที่ยวคริสต์มาส Winter Festival เนื่องจากผมกำลังจะเดินทางไปเที่ยวยุโรปช่วงคริสต์มาสนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวยุโรปช่วงเทศกาล ปกติผมเที่ยวไทยมาโดยตลอด จึงถือโอกาสหยิบเอาสถานที่ที่หลาย ๆ คนน่าจะเอาไปเป็นตัวเลือกในพักผ่อนหย่อนใจช่วงปลายปีดูกันนะครับ ซึ่งพบว่ามีหลายที่ไม่น้อยที่มีการจัดอีเว้นท์ในช่วงเทศกาลนี้ เดิมทีจากประวัติศาสตร์เขาจะจัดกันแค่ 1 วันหรือสองวันก่อนวันคริสต์มาส แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปหลาย ๆ ที่จัดกันทั้งเดือนธันวาคมเลยล่ะครับ
วางแผนเที่ยวคริสต์มาส Winter Festival
ลำดับดับแรกสิ่งที่ทำเลยหลักจากเลือกที่ได้แล้วว่าจะไปที่ไหน ควรเตรียมตัวด้านเอกสารในการขอวีซ่า หรือเอกสารเดินทางตั้งแต่เนิน ๆ เพราะการขอวีซ่าในการไปต่างประเทศนั้นอาจใช้เวลานานแตกต่างไปในแต่ละประเทศ แต่หากวางแผนแล้วว่าจะอยู่ไทยนั้นก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย
เตรียมตัวขอวีซ่า ยุโรป
อย่างที่แจ้งไปว่าผมกำลังจะเดินทางไปยุโรปนั้นสิ่งที่อาจจะนำมาแบ่งปันได้คือขั้นตอนการขอวีซ่า โดยที่ผมเองนั้นเลือกที่จะเดินทางไปยังประเทศ เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และเช็กเกีย โดยที่ผมนั้นจะอยู่ที่เนเธอแลนด์นานที่สุด โดยการขอวีซ่าสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยคือเรื่องของประกัน โดยที่ผมเองก็มีประกันที่ครอบคลุมการเดินทางทั้งหมดประกอบกับ แผนการเดินทางตลอดทั้งทริปผมพยายามทำให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ผมตัดสินใจจ่ายทุกอย่างไปก่อนเลยครับ ถึงแม้ทางคำแนะนำการขอวีซ่าก็แนะนำให้พวกเราสามรถจองแบบยังไม่ต้องชำระค่าตั๋วต่าง ๆ ได้แต่ผมก็ตัดสินใจทำให้มันชัดเจนว่าแผนการเดินทางเป็นอย่างไร เราจะจ่ายเงินตลอดทั้งทริปไหวไหมเป็นต้น
นอกจากเรื่อง ประกัน แผนการเดินทาง และเอกสารการจองเครื่องบิน โรงแรม รถทัวร์รถไฟต่าง ๆ แล้วเรายังต้องมีเอกสารที่ทำให้ทางสถานทูตระบุตัวตนของเราได้ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ทำให้ทางสถานทูตมั่นใจว่าเราจะกลับมายังประเทศของเราจริง ๆ ในท้ายที่สุด โดยผมเตรียม เอกสารเกี่ยวกับอาชีพ รับรองว่ากำลังศึกษาปริญญาอีกใบที่มหาวิทยาลัยไทย ถิ่นที่อยู่ การ์ดการจ่ายเงินต่างๆ โดยที่สำคัญต้องมีฉบับแแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย
วางแผนเที่ยวคริสต์มาส สถานที่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
โดยผมจะแตกไลน์สถานที่ที่น่าสนใจ ในการไปเที่ยวคริสต์มาสนั้น
สัมผัส White Christmas ในยุโรป สไตล์คลาสสิกนึกถึงซานตาครอส
หากฝันถึงคริสต์มาสท่ามกลางหิมะ แสงไฟระยิบระยับ และตลาดคริสต์มาสแบบดั้งเดิมต้องนึกถึงยุโรป โดยที่ผมเองก็เลือกตัวเลือกนี้ในปีนี้
เยอรมนี
Berlin – Christmas market at Charlottenburg Palace
หน้าพระราชวังชาร์ลอตเทนเบิร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงคริสต์มาสต์เลยครับ มีบูทของสินค้าต่าง ๆ เยอะมากที่มีงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม เช่น ดาวจุติ ปิรามิด ผู้สูบบุหรี่ธูป เครื่องประดับฉากการประสูติ ของตกแต่งคริสต์มาส เทียน เครื่องประดับ เซรามิก เครื่องหนัง และผ้าไหม มีจําหน่าย เช่นเดียวกับขนมหวานทุกชนิดและอาหารรสเลิศที่มีให้เลือกมากมาย ในเต็นท์เจดีย์ที่มีระบบทําความร้อน
Embed from Getty Imagesข้อมูลเพิ่มเติม
- เริ่มตั้งแต่ 24 พฤศจิกายน – 28 ธันวาคม 2025 (ปิดวันที่ 24 ธันวาคม)
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/pFe2EGH2jTdphPTc9
- เวลา: จันทร์-พฤหัสบดี 1 pm – 10 pm และวันศุกร์-อาทิตย์ 12 pm – 10 pm (วันคริสต์มาส 12 pm – 10 pm)
และยังมีที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจคือ
- Spandau: https://maps.app.goo.gl/c5Z7sidsjct2Tpv76
- Gendarmenmarkt: https://maps.app.goo.gl/9VLttobCdhtJQg2W6
Nuremberg – Nuremberg Christkindlesmarkt
Nuremberg Christkindlesmarkt เป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ในบูธไม้ของ “เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยไม้และผ้า” เราจะพบของตกแต่งคริสต์มาสแบบดั้งเดิมที่มักทําด้วยมือและของหวาน เช่น ขนมปังขิงและคุกกี้อัลมอนด์ Spekulatius
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8VGu7qaSncEaJhZg7
Embed from Getty ImagesDresden – Dresden Christmas Market
Embed from Getty Imagesตลาดคริสต์มาสเดรสเดน (Dresden Christmas Market) มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1434 ทำให้เป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี ตลาดหลักคือ Striezelmarkt ซึ่งตั้งอยู่ที่จัตุรัส Altmarkt ชื่อ “Striezelmarkt” มาจากขนมปังผลไม้แบบดั้งเดิมที่ชื่อว่า “Striezel” ซึ่งขายในตลาดนี้ นอกจากนี้ เดรสเดนยังมีตลาดคริสต์มาสอื่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น ตลาดแนวยุคกลางใน Stallhof และตลาดที่จัตุรัส Neumarkt
ออสเตรีย
Vienna – Chönbrunn Christmas Market (หรือ Schönbrunn)
ตลาดคริสต์มาสพระราชวังเชินบรุนน์ที่ประเทศเวียนนาได้มีคนบอกกันว่าเป็น มนต์เสน่ห์แห่งเทศกาลในบรรยากาศพระราชวังเก่า ตลาดคริสต์มาสหน้าพระราชวังเชินบรุนน์ (Kultur- und Weihnachtsmarkt Schloss Schönbrunn) คือหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่งดงามและโรแมนติกที่สุดของกรุงเวียนนา คือเราจะเห็นบรรยากาศด้านหลังเป็นพระราชวังคือดูราวกับว่าเราเป็นเชื้อพระวงศ์สมัยก่อนมาเดินเล่น ประกอบกับมีสถาปัตยกรรมบาโรกเป็นหนึ่งในมรดกโลก จึงทำให้ตลาดแห่งนี้มอบประสบการณ์อันน่าประทับใจแก่ผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/KGuvXNTa7v8JPNTU6
Embed from Getty ImagesVienna – Rathausplatz
Wiener Christkindlmarkt am Rathausplatz” (ตลาดพระคริสต์สมภพแห่งเวียนนา ณ ลานหน้าศาลากลาง) ตลาดคริสต์มาสแห่งนี้เป็นที่พูดถึงเป็นที่แรก ๆ เมื่อมีคนบอกว่าจะไปเที่ยวเวียนนาช่วงคริสต์มาส กิมมิคของสถานที่แห่งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่มีชื่อเรียกว่า “Wiener Weihnachtstraum” หรือ “ความฝันวันคริสต์มาสแห่งเวียนนา” ที่จะเนรมิตพื้นที่ด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Rathaus)
ด้วยฉากหลังของอาคารสไตล์นีโอโกธิคที่ประดับไฟอย่างตระการตา ต้นคริสต์มาสขนาดมหึมาที่ส่องสว่างใจกลางตลาด และซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาสในเวียนนาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8ZmbHZYzJD1rdyiM8
Embed from Getty ImagesSalzburg – Salzburger Christkindlmarkt am Dom- und Residenzplatz
ซาลซ์บูร์ก เมืองมรดกโลกอันงดงามและบ้านเกิดของคีตกวีเอกอย่างโมสาร์ท จะถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ตลาดคริสต์มาสหลายแห่งทั่วมืองต่างอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของไวน์ร้อน (Glühwein) ขนมปังขิง และเกาลัดคั่ว ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับและเสียงเพลงประสานเสียงที่ก้องกังวาน สร้างบรรยากาศราวกับหลุดเข้าไปในเทพนิยายฤดูหนาว
นี่คือหัวใจของเทศกาลคริสต์มาสในซาลซ์บูร์ก และเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดในโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่สืบย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 15 ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า (Old Town) โดยมีฉากหลังเป็นมหาวิหารซาลซ์บูร์ก (Salzburg Cathedral) และป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บูร์ก (Hohensalzburg Fortress) ที่สง่างาม
- เหมาะสำหรับ: คู่รัก คนที่ชอบศิลปะ ดนตรีคลาสสิก และสถาปัตยกรรมสวยๆ
- พิกัด: https://maps.app.goo.gl/wAGTBwAaeuzKe1aT6
ฝรั่งเศส
Strasbourg – Christkindelsmärik”
ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งคริสต์มาส” (Capitale de Noël) ตลาดคริสต์มาสที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเมืองทั้งเมืองจะถูกประดับประดาอย่างงดงามตระการตา
เหมาะสำหรับ: ทุกเพศทุกวัยที่อยากสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาสแบบฝรั่งเศสแท้ๆ
สตราสบูร์ก (Strasbourg) ในแคว้นอาลซัส (Alsace) ประเทศฝรั่งเศส ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งคริสต์มาส” ด้วยประวัติศาสตร์ตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1570 ภายใต้ชื่อ “Christkindelsmärik” (ตลาดพระกุมารเยซู) ทุกๆ ปี เมืองทั้งเมืองจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ด้วยแสงไฟระยิบระยับนับพันดวง อาคารบ้านเรือนสไตล์โครงไม้ที่ประดับประดาอย่างวิจิตร และกระท่อมไม้ (chalets) กว่า 300 หลังที่ตั้งเรียงรายไปทั่วจัตุรัสสำคัญต่างๆ
ตลาดคริสต์มาสของสตราสบูร์กไม่ได้รวมอยู่แค่ที่เดียว แต่กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณศูนย์กลางเมืองเก่าบนเกาะใหญ่ (Grande Île) ซึ่งเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO ทำให้การเดินเที่ยวชมเป็นประสบการณ์ที่น่าไปลองสักครั้ง
Embed from Getty ImagesParis – Tuileries Garden
ปารีสในช่วงคริสต์มาสจะเปลี่ยนโฉมจากเมืองหลวงแห่งแฟชั่นและศิลปะ กลายเป็นนครแห่งแสงไฟ (City of Light) ที่ส่องสว่างและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งเทศกาล ทั่วทั้งเมืองจะประดับประดาด้วยไฟคริสต์มาส โดยเฉพาะบนถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées) และย่านหรูหราต่างๆ ส่วนตลาดคริสต์มาส (Marchés de Noël) ก็จะผุดขึ้นตามจัตุรัสและสวนสาธารณะสำคัญ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา
Embed from Getty Imagesปารีสมีตลาดคริสต์มาสหลายแห่งกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง แต่ละแห่งมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่มักจะเริ่มเปิดทำการตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือนธันวาคมหรือต้นเดือนมกราคม
Embed from Getty ImagesTuileries Garden ตลาดคริสต์มาสในสวนตุยเลอรี (Marché de Noël du Jardin des Tuileries) ตลาดคริสต์มาสแห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “La Magie de Noël” (The Magic of Christmas) ได้ย้ายมาจากถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées) มาตั้งอยู่ในสวนตุยเลอรีที่งดงามตั้งแต่ปี 2018 ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับชาวปารีสและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล ด้วยทำเลที่ตั้งที่ค่อนข้างดีระหว่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) และจัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ทำให้การเดินทางมาเยือนสะดวกสบายอย่างยิ่ง
บรรยากาศของตลาดแห่งนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างตลาดคริสต์มาสแบบดั้งเดิมเข้ากับสวนสนุกรื่นเริง (Funfair) สร้างความสนุกสนานให้กับผู้มาเยือนทุกเพศทุกวัย
Embed from Getty Imagesสาธารณรัฐเช็ก (Czechia)
สาธารณรัฐเช็ก (Czechia) เป็นอีกหนึ่งที่ที่ถูกนึกถึงเวลาพูดถึงเมืองที่น่าไป ถึงแม้ไม่ popular ในหมู่คนไทยมากแต่อยากเชียร์ว่าน่าลองไปสักครั้งจริง ๆ เพราะเมืองมีความคลาสสิกเราจะได้เจอคริสต์มาสแบบดั้งเดิมใจกลางยุโรป ด้วยสถาปัตยกรรมของเมืองที่เก่าแก่ราวกับหลุดออกมาจากหนังสู้รบสมัยก่อนในยุโรป แต่จะเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ทำให้ตลาดคริสต์มาสของที่นี่มีมนต์เสน่ห์มาก ๆ เลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงปราก เมืองหลวงของประเทศ
กรุงปรากมีตลาดคริสต์มาส (Vánoční trhy) กระจายตัวอยู่หลายแห่ง แต่ตลาดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดคือสองแห่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ง่าย
ปราก (Prague) – Old Town Square Christmas Market – Staroměstské náměstí
ตลาดคริสต์มาส ณ จัตุรัสเมืองเก่าปราก (Staroměstské náměstí) คือหัวใจของเทศกาลคริสต์มาสในสาธารณรัฐเช็กเลยก็ว่าได้ครับ โดยตลาดแห่งนี้จัดหนักจัดเต็มตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมกราคม ท่ามกลางฉากหลังอันงดงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่เช่นโบสถ์ Týn และหอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไฮไลท์สำคัญคือต้นคริสต์มาสยักษ์ที่มีพิธีเปิดไฟประกอบแสงสีเสียงทุกเย็น สะพานชมวิวสำหรับถ่ายภาพมุมสูง และบรรยากาศที่คึกคักไปด้วยการแสดงดนตรี พร้อมอาหารขึ้นชื่ออย่าง Trdelník (ขนมปล่องไฟ) และ Svařák (ไวน์ร้อน)
สถานที่นี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีรากฐานจากตลาดยุคกลาง ก่อนจะถูกโจมตีในยุคคอมมิวนิสต์ และได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อย่างยิ่งใหญ่หลังการปฏิวัติกำมะหยี่ในปี 1989 กลายเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของการฟื้นคืนชีพทางวัฒนธรรมและเสรีภาพของชาติ
Embed from Getty Imagesปราก (Prague) – Wenceslas Square Christmas Market – Václavské náměstí
จัตุรัสเวนเชสลาส (Wenceslas Square) คือตลาดที่มีความขลังและความทันสมัยในขณะเดียวกัน ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของกรุงปรากยาวไปสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเช็กเกียอันสง่างาม แม้จะมีกำหนดการและอาหารเลิศรสคล้ายกับตลาดที่จัตุรัสเมืองเก่า แต่บรรยากาศของที่นี่จะคึกคักและเน้นการค้ามากกว่า จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะเวทีหลักของเหตุการณ์สำคัญในศตวรรษที่ 20 ตั้งแต่การประท้วงในยุค Prague Spring ไปจนถึงการปฏิวัติกำมะหยี่ในปี 1989 การมาเยือนตลาดแห่งนี้จึงไม่ใช่แค่การสัมผัสเทศกาลรื่นเริง แต่ยังเป็นการยืนอยู่บนพื้นที่ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและจิตวิญญาณของสาธารณรัฐเช็กยุคใหม่
Embed from Getty Imagesสายเอเชีย: บรรยากาศดี เที่ยวง่าย ไม่ต้องไปไกล
หากมีเวลาน้อยหรือไม่อยากเดินทางไกล แถบเอเชียก็มีสถานที่ฉลองคริสต์มาสที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน
ญี่ปุ่น
แม้ญี่ปุ่นจะไม่มีวัฒนธรรมคริสต์มาสที่หยั่งรากลึกเหมือนยุโรป แต่ญี่ปุ่นรับเอาความรื่นเริงและสุนทรียภาพของเทศกาลมาปรับใช้ได้อย่างงดงาม ตลาดคริสต์มาสในโตเกียวจึงเป็นการผสมผสานระหว่างบรรยากาศแบบยุโรปดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยและความใส่ใจในรายละเอียดแบบญี่ปุ่น
ประวัติศาสตร์ของคริสต์มาสในญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 16 จากการเผยแผ่ศาสนาของมิชชันนารีชาวตะวันตก แต่ต่อมาถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดนานกว่า 200 ปีในยุคที่ญี่ปุ่นปิดประเทศ เทศกาลนี้ได้กลับมาอีกครั้งหลังการเปิดประเทศในยุคเมจิ และได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิงหลังสงครามโลกครั้งที่สองภายใต้อิทธิพลทางวัฒนธรรมของอเมริกา ทำให้คริสต์มาสวิวัฒนาการจากเทศกาลทางศาสนามาเป็นเทศกาลทางวัฒนธรรมและเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ในปัจจุบัน คริสต์มาสสำหรับคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงไม่มีนัยทางศาสนา แต่กลายเป็นวันโรแมนติกสำหรับคู่รักคล้ายวันวาเลนไทน์ พร้อมด้วยวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์คือการกินไก่ทอด KFC และเค้กสตรอว์เบอร์รี รวมถึงการให้ความสำคัญกับการประดับไฟฤดูหนาว (Illuminations) อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา
Tokyo – Meiji Jingu Gaien
ตลาดคริสต์มาส Tokyo Christmas Market ที่ Meiji Jingu Gaien ไม่ได้มีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น แต่เกิดขึ้นจากความต้องการจำลองบรรยากาศตลาดคริสต์มาสเยอรมันแท้ๆ มาไว้ใจกลางกรุงโตเกียว โดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากสมาคมตลาดคริสต์มาสและสถานทูตเยอรมนี ความน่าสนใจของตลาดแห่งนี้จึงอยู่ที่ความสมจริงและความยิ่งใหญ่ที่สุดในโตเกียว โดยมีสัญลักษณ์สำคัญคือ พีระมิดคริสต์มาส (Christmas Pyramid) ไม้แกะสลักสูง 14 เมตรที่นำเข้าโดยตรงจากเมือง Seiffen ของเยอรมนี ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของงานฝีมือชิ้นนี้ แม้ตัวตลาดจะไม่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมันอยู่ที่การเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดของการวิวัฒนาการของคริสต์มาสในญี่ปุ่น จากเทศกาลทางศาสนาสู่การเป็นอีเวนต์ทางวัฒนธรรมและเชิงพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคหลังสงคราม การจัดงานในพื้นที่สาธารณะอย่าง Meiji Jingu Gaien ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับยุคเมจิที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตก ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำเร็จในการผสมผสานวัฒนธรรมต่างชาติเข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ของญี่ปุ่นได้อย่างกลมกลืน
Embed from Getty ImagesSapporo – Munich Christmas Market in Sapporo
ตลาดคริสต์มาสมิวนิก ณ สวนโอโดริ คือตลาดคริสต์มาสอันดับหนึ่งของซัปโปโรที่ผู้คนกล่าวถึงมากที่สุด เกิดขึ้นในปี 2002 เพื่อฉลองความสัมพันธ์ 30 ปีในฐานะเมืองพี่เมืองน้องกับเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ความน่าสนใจสูงสุดของตลาดแห่งนี้คือการผสมผสานบรรยากาศเยอรมันแท้ๆ ท่ามกลางหิมะขาวโพลน เข้ากับการเป็นส่วนหนึ่งของงานประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ “Sapporo White Illumination” ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งการชิมไวน์ร้อนในแก้วที่ระลึกลายพิเศษประจำปี ลิ้มลองไส้กรอกเยอรมัน และเดินชมแสงสีตระการตาไปพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นหัวใจของเทศกาลฤดูหนาวในซัปโปโร
Embed from Getty Imagesสายฉีกแนว: คริสต์มาสเมืองร้อนและประสบการณ์พิเศษ
ใครว่าคริสต์มาสต้องคู่กับความหนาวเสมอไป? ลองเปลี่ยนมาฉลองแบบไม่เหมือนใครดูสิคะ
ออสเตรเลีย
Sydney
คริสต์มาสในซิดนีย์คือเรื่องราวของการปรับเปลี่ยนและผสมผสานวัฒนธรรม จากการนำประเพณีฤดูหนาวของอังกฤษมาสู่ซีกโลกใต้ที่เต็มไปด้วยแสงแดด จนกลายเป็นเทศกาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของชาวออสเตรเลีย
คริสต์มาสในซิดนีย์เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1788 เมื่อผู้อพยพชาวอังกฤษพยายามรักษาประเพณีฤดูหนาวแบบดั้งเดิมไว้ภายใต้สภาพอากาศฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ซึ่งต่อมาได้วิวัฒนาการและปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างสิ้นเชิง โดยเปลี่ยนจากการเฉลิมฉลองในบ้านมาเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การจัดบาร์บีคิวริมชายหาด และใช้พืชพรรณพื้นเมืองอย่าง “พุ่มคริสต์มาส” แทนต้นฮอลลี่ ในยุคสมัยใหม่ ซิดนีย์ได้สร้างประเพณีสาธารณะที่ยิ่งใหญ่เป็นของตนเอง โดยมี ต้นคริสต์มาสแห่งมาร์ตินเพลส (Martin Place Christmas Tree) ที่เริ่มขึ้นในปี 1971 เป็นศูนย์กลางของเมือง และ แครอล อิน เดอะ โดเมน (Carols in the Domain) ตั้งแต่ปี 1983 ซึ่งกลายเป็นงานขับร้องเพลงคริสต์มาสกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการเดินทางของเทศกาลจากการเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของยุโรปสู่การเป็นเทศกาลฤดูร้อนที่มีชีวิตชีวาและเป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลีย
Embed from Getty Imagesสายเที่ยวในประเทศ: ไม่ต้องลางานยาวก็ฟินได้
ประวัติศาสตร์คริสต์มาสในประเทศไทยเริ่มต้นจากการเป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่เข้ามาพร้อมกับมิชชันนารีชาวตะวันตกในสมัยอยุธยา และเริ่มเป็นที่รู้จักในราชสำนักสมัยรัตนโกสินทร์ผ่านบุคคลสำคัญอย่างหมอแบรดลีย์ ผู้แต่งกายเป็นซานตาคลอสครั้งแรกในสยามเมื่อปี พ.ศ. 2408 ต่อมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ภายใต้อิทธิพลของวัฒนธรรมอเมริกัน คริสต์มาสได้เปลี่ยนสถานะจากเทศกาลทางศาสนามาเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริงและเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีห้างสรรพสินค้าเป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองด้วยการประดับไฟและจัดกิจกรรมต่างๆ ทำให้ปัจจุบันคริสต์มาสสำหรับคนไทยส่วนใหญ่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความทันสมัยในช่วงปลายปี โดยไม่ได้ยึดโยงกับความเชื่อทางศาสนาเป็นหลัก
กรุงเทพมหานคร: ห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ เช่น CentralWorld, Siam Paragon, ICONSIAM, AsiaTique จะแข่งขันกันประดับไฟและต้นคริสต์มาสยักษ์อย่างยิ่งใหญ่ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ และกิจกรรมพิเศษมากมาย
เชียงใหม่/เชียงราย: สัมผัสอากาศเย็นสบายทางภาคเหนือ ชมการประดับไฟตามโบสถ์คริสต์และโรงแรมต่างๆ พร้อมกับท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติและคาเฟ่สวยๆ
เหมาะสำหรับ: คนที่อยากได้ฟีลหนาวนิดๆ แต่ไม่อยากไปไกล
สกลนคร (หมู่บ้านท่าแร่): ชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่มีการจัด “ประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส” ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยชาวบ้านจะประดับรถแห่ด้วยดาวขนาดใหญ่และแสงไฟหลากสีสัน
สรุป วางแผนเที่ยวคริสต์มาส Winter Festival
สำหรับคนที่ใจรักการเดินทาง หรือบุคคลทั่วไปที่ใช้ชีวิตเกิดมาต้องเดินทางสักครั้ง ข้อมูลที่ผมเตรียมมาให้เป็นเพียงข้อมูลทางเลือกที่ทุกคนอาจจะเดินทางในแบบฉบับของตนเองได้ ส่วนเลือกไปที่ไหนนั้น แล้วแต่ความชอบและงบประมาณในกระเป๋าของคุณเลยนะครับ อย่างที่บอกไปว่าผมไปยุโรปในปีนี้หากเดินทางเรียบร้อยแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังแบบที่เป็นมา และขอให้ การวางแผนเที่ยวรอบนี้ของคุณประสบความสำเร็จแล้วอย่าลืมมาแชร์กันนะครับ!