รีวิว Captain America: Brave New World ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่ | ภาพยนตร์ที่ทำให้แฟน ๆ จักรวาลมาร์เวลตั้งตารอ หลังเราได้เห็นบทบาทของสไปร์เดอร์แมนกันไปก่อนหน้านี้แล้วหลังจากจบ End Game ซึ่งทำได้ดีแค่ไหน จุดประสงค์ของหนังมีเพื่ออะไร และทำไมถึงต้องเดินเรื่องแบบนี้ วันนี้ Bigdreamblog.com จะมารีวิวหนัง เรื่องนี้ให้ดูกันตามสไตล์ของเราแบบเจาะลึกเลย [เหมาะกับคนที่ดูหนังแล้ว]
เรื่องย่อของ Captain America: Brave New World
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเหตุการณ์ใน “The Falcon and the Winter Soldier“, Sam Wilson (Anthony Mackie) ก้าวขึ้นมาเป็น Captain America คนใหม่ ด้วยโล่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความรับผิดชอบ ในภาคนี้ Sam ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่มาพร้อมกับความซับซ้อนทางการเมืองและอำนาจใหม่ที่เข้ามาคุกคามความมั่นคงของโลก.
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Sam ต้องร่วมมือกับประธานาธิบดีในบทบาทใหม่ของ Thaddeus “Thunderbolt” Ross ที่รับบทโดย Harrison Ford และเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความไม่ไว้วางใจจากฝ่ายต่าง ๆ และการต่อสู้กับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกในแบบที่ไม่เป็นธรรม
ในขณะที่ Sam พยายามปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใหม่ในฐานะ Captain America และรักษาสันติภาพ เขาต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำที่แท้จริง รวมทั้งได้พบกับเพื่อนใหม่และศัตรูเก่า ทั้งหมดนี้นำไปสู่การผจญภัยที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ การเสียสละ และการตั้งคำถามถึงความหมายของคำว่า “วีรบุรุษ” ในโลกสมัยใหม่

รีวิว Captain America
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินเรื่องสไตล์การต่อจิ๊กซอ ซึ่งภาพยนตร์แต่ละเรื่องนั้นเป็นเหมือนจิ๊กซอที่ทำให้ภาพใหญ่ของเรื่องชัดขึ้น ซึ่งเช่นกันกับเรื่องกัปตันอเมริกาก็ยังเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอที่มีความสำคัญ(แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น) เดี่ยวเราจะค่อย ๆ อธิบายแต่ละส่วนที่คุณน่าจะอยากรูปไปในทีละหัวข้อนะครับ
เนื้อเรื่อง
การที่กัปตันอเมริกา มีการต่อยอดมาจากหนังเก่าหลาย ๆ เรื่อง รวมทั้งซีรีส์ที่ทำปูเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ Sam กลายเป็นกัปตันอเมริกาอย่างเต็มภาคภูมิ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ดูซีรีส์มา อีกทั้งการสร้างภาพยนตณ์เรื่องนี้ ผู้สร้างต้องคำนึงถึงผู้ที่ไม่ได้ดูซีรีส์ด้วยไม่เร่งรีบในการให้เรื่องล่วงหน้าเกินไป พยายามให้คนที่ดูแต่หนังอย่างเดียวก็รู้เรื่อง และก็ไม่ทิ้งให้คนที่ดูซีรีส์ต้องดูหนังซ้ำเช่นกัน
เนื้อเรื่องของเรื่องนี้จึงมีความเบา ไม่ซับซ้อน ตามทันและเข้าใจง่าย ซึ่งเหตุผลเพราะต้องคำนึงถึงผู้ชมทุกเพศทุกวัยด้วย การทำหนังแบบนี้นั้นเป็นข้อดีต่อวงกว้างมากกว่าสำหรับผู้ชม แต่จะสร้างความรำคาญให้กับผู้ชมที่เป็น Fan แบบ Hardcore พอสมควร เพราะเนื้อเรื่องเหมือนมันไม่ได้ไปไหน ฉายซ้ำเรื่องเดิม ๆ
เหตุผลที่แฟน ฮาร์ดคอ อาจจะไม่ชอบคือ เนื้อเรื่องนั้นไม่มีความซับซ้อนไม่มีอะไรให้ต้องคิดเยอะ Red Hulk ที่โผล่มาจาก Ross นั้นออกมาน้อยมากถ้าเทียบกับความคาดหวังของแฟนภาพยนตร์ เพราะถึงขั้นเอามาเป็นโปสเตอร์ของหนัง ถึงแม้จะชูให้การต่อสู้ของ Red Hulk เป็นไฮไลท์ของเรื่อง แต่นั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างหนาหูว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่คาดหวังทั้งเรื่อง CG เองก็ดี ปมขัดแย้งเองก็ดี
แต่หากผู้ชมที่ไม่ใช่ ฮาร์ดคอแฟน ก็ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญเท่าไหร่ ก็ยังถือได้ว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่เคยทำมาได้อยู่ ซึ่งถ้าดูเอาสนุกก็ถือว่าโอเคทีเดียว
เนื้อเรื่องที่ควรจะเป็น
ในมุมมองส่วนตัวของผม ภาพยนตร์เรื่อง Captain America ของเครือมาร์เวลนั้นมีจุดเด่นคือเรื่อง Politic สงครามที่มีความเป็นมนุษย์มากที่สุดในทุกเรื่องถ้าไม่นับเรื่อง Black Widow
ภาพยนตร์เรื่องนี้ควรใส่ความดรามาติก หรือความซับซ้อนทางการเมืองให้มากกว่านี้ เช่นเดียวกับสมัย Captain America 1 และ 2 ที่ทำมาค่อนข้างเข้มข้น ถึงแม้เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ยุคสมัยนี้มีความดราม่าทางการเมืองระหว่างประเทศเข้มข้นเพราะสถานการณ์การเมืองในโลกความเป็นจริงช่างเปราะบางเหลือเกิน แต่ในหนังนั้นเบาหวิวเกินไป การหยิบเอาญี่ปุ่นมาเป็นคู่ขัดแย้ง เรื่องอาเมนดาเทียมนั้นยังไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ หรือ หนังไม่ได้โชว์เรื่องของการปั่นหัวที่มีน้ำหนักมากกว่านี้เสียเท่าไหร่ สมัยเปิดตัว Black panther ทำได้ดีกว่านี้มากเพราะเอากษัตริย์ของ วากานด้า มาฆ่าต่อหน้าสาธารณะชน นั่นทำให้มันเมคเซนส์ขึ้นมา
ตัวละคร
ในแง่ของตัวละครแต่ละบทบาท คงไม่ได้พูดถึงเยอะ เพราะพวกเขาคือมืออาชีพ 5555 ทุกคนล้วนเล่นดีหมดตามหน้าที่ที่ได้รับ แต่บทของ New Widow นั้นแอบน้อยไปหน่อยแต่เรียกได้ว่ามีสไตล์ ส่วนรีวิวบทบาทการแสดงของตัวละครหลักใน “Captain America: Brave New World” คนอื่น ๆ

Sam Wilson / Captain America (Anthony Mackie):
Anthony Mackie ในบท Sam Wilson ซึ่งต้องรับภาระทางจิตใจในบทบาทของ Captain America ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม การแสดงของเขาสื่อสารได้ถึงความเป็นผู้นำที่มีความเข้าใจในมนุษย์และความรู้สึกอ่อนไหวต่อสังคม การเปลี่ยนแปลงจาก Falcon มาเป็น Captain America มีความเป็นธรรมชาติและสมจริง ทำให้เรารู้สึกถึงการเติบโตและการเรียนรู้ของตัวละคร
ในคอมมิกมีการประกบคู่ Steve Roger และ Sam ให้เป็น Captain America คู่กัน แต่ในเรื่องนี้ต้องฉายเดียว ส่วนจุดประสงค์ของหนังนั้นทำแบบนี้เพื่ออะไรเดียวเราจะไปพูดถึงตอนท้ายบทความครับ

President Thaddeus “Thunderbolt” Ross / Red Hulk (Harrison Ford)
Harrison Ford เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ผมชอบเป็นทุนเดิมออยู่แล้ว เขานำความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและน่าเกรงขาม อีกทั้งดูน่าเห็นใจในความจิตใจดีของนักแสดงส่วนตัวมาสู่บทบาทของ Ross ถือได้ว่าเป็นการ Re-Cast ที่ยอดเยี่ยม แต่ถึงแม้หากเป็นนักแสดงเดิมจะทำให้ผู้คนอินมากกว่านี้ก็ตามว่า “Ross จะเปลี่ยนนิสัยจริง ๆ หรอ?” แต่การที่มี Harrison Ford เข้ามาเป็นการเพิ่มมิติใหม่ให้กับตัวละครที่เมื่อก่อนเคยเป็นคู่ปรับของ Hulk และนายพลที่ไม่เห็นด้วยกับ Avengers การเปลี่ยนแปลงเป็น Red Hulk ถูกแสดงออกมาด้วยความน่าเชื่อถือ ทำให้เราเห็นด้านมืดและความซับซ้อนของตัวละครนี้ อีกทั้งทำให้คนเชื่อว่าเขาจะเป็นคนดีได้จริง ๆ เพราะเรื่องอื่น ๆ แทบจะไม่เคยเห็นเขาเล่นเป็นตัวร้ายเลย

Isaiah Bradley (Carl Lumbly)
Carl Lumbly แสดงบทบาท Isaiah Bradley ได้อย่างสมจริงและมีพลังมีน้ำหนักในการเป็นตัวละครดังกล่าว การแสดงของเขาสะท้อนถึงความเจ็บปวด ความอดทน และความรู้สึกของคนที่ถูกลืมโดยประวัติศาสตร์ ทุกการปรากฏตัวของเขามีน้ำหนักและทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของอดีตและความไม่ยุติธรรม

Joaquin Torres / Falcon (Danny Ramirez)
Danny Ramirez นำความสดใหม่มาสู่บทบาทของ Falcon ในฐานะตัวละครที่รับช่วงต่อจาก Sam Wilson การแสดงของเขามีความกระตือรือร้นและความกระหายในการเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาตัวละครที่น่าติดตาม ความสัมพันธ์ของเขากับ Sam ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนว่า มาร์เวล กำลังจะปั้นตัวละครนี้ให้กลายเป็นดาวเด่นต่อไปในอนาคต

Ruth Bat-Seraph (Shira Haas)
Shira Haas แม่สาว Window คนใหม่ที่สร้างบทบาทใหม่ใน MCU ได้อย่างน่าสนใจ การแสดงของเธอมีความเข้มข้นและซับซ้อน สื่อสารได้ถึงความเป็นมืออาชีพและความจงรักภักดีต่อประธานาธิบดี Ross แต่ยังคงมีความลับและประวัติส่วนตัวที่น่าค้นหา บทบาทน้อยไปหน่อยอยากให้มีบทบาทในการดำเนินเรื่องมากกว่านี้เพราะเป็นตัวละครที่ดูน่าสนใจในที่มาที่ไปมาก ๆ

The Leader / Samuel Sterns (Tim Blake Nelson)
Tim Blake Nelson กลับมารับบท The Leader ด้วยความเฉียบแหลมและฉลาดเป็นกรด การแสดงของเขาทำให้เราเห็นถึงความเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดหลักแหลมแต่ก็มีความเสียหายทางจิตใจ การกลับมาของเขาสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่ติดตามเรื่องราวตั้งแต่ “The Incredible Hulk” การกลับมาของตัวละครนี้เป็นเหมือนจิ๊กซอที่ทำให้ผู้ที่ติดตามเกิดความเชื่อมโยงในจิตใจและทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เราเคยดูนั้นไม่ได้หายไปไหน
CG ภาพตระการตาและฉากแอคชั่น
หนังเรื่องนี้ถูกวิจารย์ในเรื่องของ CG อย่างมากในช่วงไฮไลท์ของเรื่องเช่นเดียวกับที่ถูกวิจารณ์ในภาพยนตร์เรื่อง Thor: love and thunder ว่ามีความไม่สมประกอบเหมือนงานเร่งรีบ แต่อย่างไรก็ดีหลาย ๆ ฉากการต่อสู้ทางอากาศซึ่งเป็นจุดเด่นของ Falcon และ Sam Wilson นั้นทำได้ดีมากแบบเสมอต้นเสมอปลายตามมาตรฐาน
อีกทั้งการเพิ่มอาวุธลับอย่างปีกพลังเดียวกับ Black Panther และการใช้ Nano tech เหมือน Spiderman และ Iron Man ภาพและพลังนั้นทำได้สมน้ำสมเนื้อตามความน่าจะเป็นของคุณภาพของภาพยนตร์
ถอดบทวิเคราะห์หนัง
เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นการ Build up สร้างเรื่องราวใหม่ของ The Avenger ในหนังมีการพูดถึงการสร้างกลุ่มใหม่ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของจักรวาล MCU ในช่วงนี้เราจะเห็นได้จากหลายเรื่องว่าเป็นช่วง Curve ที่จะปูถึงเรื่องราวในบทถัด ๆ ไปดังที่เราจะได้เห็นในภาพยนตร์ก่อนหน้านี้อย่าง Doctor Strenge ที่กำลังปูเรื่อง Young Avenger อีกทั้งเรื่อง Marvel S ด้วยที่ปูเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการปูสร้างกลุ่ม Avenger ใหม่โดยที่มี Sam และ Spiderman อาจจะเป็นผู้นำทีม
นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนยอมรับและผูกพันกับ Sam Wilson มากขึ้นพยายามสร้างความชอบธรรมให้ตัวละครดังกล่าวเป็นที่ยอมรับในสายตาของเรื่องและสายตาของผู้ชม ว่าคนดำ (หมายเหตุ: การใช้คำว่าคนดำไม่ได้เป็นการเหยียดนะครับ เพราะคำว่าคนดำ คือ Black People และคนดำไม่ใช่คนผิวสี เป็นคนละประเภทกัน คนดำเรียกตัวเองว่าเป็นคนดำ และเขาภูมิใจที่เป็นคนดำด้วยครับ) ที่ไม่มีความสามารถพิเศษใด ๆ ที่เหนือธรรมชาติ สามารถเป็นคนที่นำทีมได้ เรื่องนี้จึงมีค่านิยม Woke หรือ คือค่านิยมการตื่นรู้ทางสังคม แทรกอยู่ด้วย ซึ่งใครไม่ชอบก็จะไม่ชอบส่วนผมไม่ได้เห็นเป็นประเด็นสำคัญอะไรเพราะไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องเสียหรือเปลี่ยนไปจากเดิมครับ
สำรวจความเห็นของสังคมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้
จุดเด่น (Positive Aspects)
การแสดง
มีการยกย่องการแสดงของ Anthony Mackie ในบท Captain America และ Harrison Ford ในการรับบท President Ross / Red Hulk โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครนี้ถูกชื่นชมว่าสร้างความเข้มข้นและอารมณ์ให้กับเรื่องราว
ฉากแอ็คชัน
ฉากแอ็คชันได้รับคำชมว่าทำออกมาได้ดี มีความตื่นเต้นและมีความน่าสนใจในการออกแบบสเปเชียลเอฟเฟกต์และการต่อสู้ที่ดูซับซ้อน
Easter Eggs และการเชื่อมโยง
มีความพึงพอใจในการเชื่อมโยงกับเรื่องราวก่อนหน้าใน MCU โดยเฉพาะการกลับมาของตัวละครเก่าอย่าง The Leader และการขยายเรื่องราวของ Isaiah Bradley
การเล่าเรื่อง
บางคนรู้สึกว่าหนังมีความเป็น political thriller ที่น่าสนใจ และการพัฒนาตัวละครของ Sam Wilson ในฐานะ Captain America มีความลึกซึ้งและน่าติดตาม
จุดด้อย (Negative Aspects)
ความคาดหวัง
มีความรู้สึกว่าหนังไม่สามารถเกินความคาดหวังที่สูงจากการปรากฏตัวของ Captain America คนใหม่ได้ บางคนรู้สึกว่าหนังมีความ “safe” หรือไม่กล้าที่จะท้าทายมาตรฐานเดิม ๆ ของ MCU
การเล่าเรื่องและจังหวะ
มีการวิจารณ์ว่าหนังมีจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ และเนื้อเรื่องบางส่วนรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้เชื่อมโยงกับเรื่องราวอื่น ๆ ในจักรวาลมาร์เวลมากเกินไป
“Captain America: Brave New World” ถูกมองว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีจุดเด่นในการแสดงและฉากแอ็คชัน แต่ก็มีข้อวิจารณ์ในเรื่องการเล่าเรื่องที่ไม่สมดุลและความคาดหวังที่สูงจากแฟน ๆ ของ MCU อย่างไรก็ตาม หนังยังคงมีความสำคัญในการพัฒนาเรื่องราวของ Sam Wilson ในฐานะ Captain America และการเพิ่มมิติใหม่ให้กับจักรวาลมาร์เวล
เอนเครดิต
เอนเครดิตของเรื่องมี 1 ฉาก ที่พูดถึงการตั้งคำถามว่านี่คือโลกเดียวจริง ๆ หรอ นี่คือเส้นทางเดียวจริง ๆ หรือไม่ สำหรับใครอาจจะตีความเป็นอย่างอื่นผมไม่ทราบนะครับ แต่สำหรับผมเชื่อว่าหนังต้องการจะสื่อถึง พหุจักรวาลอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่ได้หมายถึงนอกโลกแน่ ๆ อย่างที่เรารู้กันดีว่าเราไปกันมาหลายดวงดาวในจักรวาลมาร์เวลแล้ว แต่การท่องพหุจักรวาลมาในช่วงหลัง ๆ นี้เอง
บทสรุปเพื่อไปต่อ
เส้นทางของมาร์เวลผมมองว่าด้วยบุญเก่าหรือสิ่งที่สตูดิโอทำมาทั้งหมด ยังควรค่าแก่การติดตามไปเรื่อย ๆ เพราะมันยังคงสร้างความบัญเทิงให้เราอยู่ เราได้ดห็นถึงความพยายามในการพัฒนาบท ตัวละครและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในเรื่อง จักรวาลมาร์เวลยังเป็นจักรวาลความบันเทิงที่ควรค่าแก่การรอคอยสำหรับผม ถึงแม้ภาพยนตร์บางเรื่องอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่คาดหวังแต่โดยรวมทั้งจักรวาลมันยังดีอยู่ครับ