ในช่วงเวลาการใช้ชีวิตอันน้อยนิดของผม ผมมีความชอบและหลงไหลในหลายสิ่งหลายอย่างครับ การพัฒนาตัวเอง ก็เป็นอีกหนึ่งในความสนใจของผมเช่นกัน วิธีที่ผมใช้พัฒนาตัวเองนั้นจะไม่ใช่ การอ่านหนังสือ หรือจำเขาแล้วทำตามอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ผมจะใช้วิธีในการตั้งคำถามกับสิ่งที่อ่านแล้วทดลองว่ามันเวิร์ก กับตัวเองหรือไม่ มันจะช่วยแก้ นิสัยไม่ดี ที่ผมไม่ชอบหรือไม่?
วันนี้ผมก็ไปอ่านเจอมาอีก 1 บทความของ Medium นะครับ ชื่อว่า 8 Toxic Habits You Should Get Rid of to Improve Your Quality of Life แล้วก็คิดว่าอาจจะมีประโยชน์กับคนอื่น และผมทดสอบแล้วมันก็ใช่ด้วยครับ !
“เปลี่ยนนิสัยของคุณ และชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป” ไม่รู้ว่าคุณเชื่อในคำคำนี้ไหม แต่ผมเชื่อนะ เพราะมันเป็นเหมือน Domino การเปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ บางทีมันกระทบให้เปลี่ยนสิ่งอื่น ๆ ไปด้วย
1. กังวลไปซะทุกเรื่อง
นิสัยแรกที่พูดถึงคือ ความกังวล | ความคิดเยอะ ความกังวลนี้ไม่เหมือนกับการวางแผนนะครับ บางทีเราอาจจะต้องแยกให้ออกก่อน กังวลคือการคิดมันซ้ำ ๆ คิดไม่จบ คิดจุกคิดจิกกับสิ่งที่ทำ หรือสิ่งที่กำลังจะทำ เพราะการคิดเยอะมันอาจจะทำให้เราไม่ได้ทำในสิ่งนั้นในที่สุด
หลายต่อหลายคน คิดเยอะเกินความจำเป็นนะครับ บางคนใช้เวลากับความคิดที่มากเกินไปเยอะมาก บางคนเป็นชั่วโมง หรือหลายสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนเวลาตรงนี้ไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยครับ !
วิธีการเลิกกังวลเยอะเกินไป
ผมคิดว่า เรื่องนี้ควรเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ ก่อนครับ เช่นการเลือกร้านอาหารการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ ควบคุมในสิ่งที่ควบคุมได้ อาจจะหัดพูดคำว่า “I don’t care” หรือ “ช่างมัน” บ้างนะครับ
2. คุณแคร์ความเห็นของคนอื่นมากเกินไป
การรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นสำคัญก็จริงนะครับ แต่หลักการที่ผมมักจะใช้เลยก็คือ “ฟังแต่ยังไม่เชื่อ”
Sir Alex Ferguson เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำนองว่า ความสามารถในการฟังทำให้เราเป็นผู้นำให้ชนะได้ และการฟังมันไม่ได้เสียประโยชน์ เราฟังได้แต่เราก็ไม่ได้จำเป็นต้องเชื่อทุกคำก็ได้ สิ่งที่เราฟังมันอาจจะมีประโยชน์เราก็เอามาปรับใช้ ส่วนอะไรที่เราไม่เห็นด้วยก็แค่ทิ้งมันไปก็แค่นั้น
3.ใช้ชีวิตเพื่อรอวันหยุด!
ใครเคยนับวันรอวันหยุดไหมครับ? ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน หรือวัยเรียน คือผมรู้สึกว่ามันจะมีบางช่วงนะที่ผมเป็นแบบนี้ เป็น นิสัยไม่ดี ที่ผมไม่ชอบ เวลาต้องไปอยู่ในสถานะที่ตัวเองไม่ได้อยากเป็น ยกตัวอย่างเช่นไปทำงานในที่ที่ตัวเองไม่ชอบ อะไรแบบนี้ พบว่าชีวิตไม่ได้มีความสุขเลย ! แบบระหว่างวันไม่สามารถคิดอะไรดี ๆ ได้ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัด
โดยสมัยก่อนมันจะมีการแบ่งชัดเจนว่าวันไหนทำงาน วันไหนหยุด แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปวันหยุดและวันทำงานมันถูกกลมกลืนกันด้วยเทคโนโลยีแล้วอะครับ
การใช้ชีวิตเพื่อรอวันหยุดอาจจะเป็นสัญญาณที่คุณอาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองแล้วครับว่าสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นมันใช่ หรือเหมาะกับตัวเราไหม
หากคิดแล้วว่าเราชอบทำงานในงานตรงนี้ หรือมีความสุขที่จะเรียนตรงนี้ หรือเรามีแผนที่จะต่อยอดไปทำตามความฝันแล้วใช้ตรงนี้เป็นบันไดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่บอกว่ายังไงคุณต้องทำมัน !
ลองคิดกับมันซะว่า จากรอวันหยุด ฉันจะเต็มที่กับงานตรงนี้ได้อย่างไร ฉันจะทำอะไรสร้างสรรค์ ๆ เกี่ยวกับมันยังไงดี
4.กลัวความเปลี่ยนแปลง
ความเปลี่ยนแปลงจะทำให้เรารู้สึกไม่มั่นคง ปลอดภัย หรือไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งผมคิดว่าผมเองก็เป็นคนที่กลัวความเปลี่ยนแปลงอยู่เหมือนกันนะ และคิดว่าทุก ๆ คนก็มีความกลัวนี้อยู่เหมือนกัน
แต่เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยนะครับว่าในทุกวันนี้ โลกมันเปลี่ยนแปลงเร็วมากกกกกกกก! เร็วกว่าแต่ก่อนเยอะ หากเราไม่มีความสามารถในการปรับตัวนั้นก็อาจจะทำให้เราลำบากได้ในอนาคต
คนที่สามารถปรับตัวได้เร็ว ปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จะได้เปรียบและมีโอกาสชนะมากกว่าหรืออยู่รอดได้ในระยะยาวครับ !
สิ่งที่เราทำได้เพื่อที่จะลดความกลัวก็คือ
การถามตัวเองกับการทำสิ่งใหม่ ๆ ของตัวเอง ว่าถ้าเราพลาดในการทำสิ่งใหม่ ๆ นั้นสิ่งที่แย่ที่สุดคืออะไรแล้วถามตัวเองตอนมีสติว่าเรารับได้ไหม ? ถ้ารับได้ก็ลุยครับ!
โดยไม่ต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย ๆ และสร้างนิสัยที่มั่นคงดีกว่าครับ
5.พยายามเอาใจทุกคน!
เราต้องรู้จัก ปฏิเสธคนอื่น ๆ บ้างครับตามที่ และเราต้องมีศิลปะในการ Say No ด้วยครับให้คนที่จะมาขอความช่วยเหลือจากเราไม่รู้สึกแย่จนเกินไป
“เราไม่จำเป็นต้องเอาใจทุก ๆ คนครับ” เพราะการที่เราไปนั่งเอาใจคนอื่นตลอดแสดงว่าเราลดการเอาใจตัวเองไปด้วย เราควรใส่ใจความคิด ความรู้สึกของตัวเองด้วยครับ
รักตัวเองให้เยอะ ๆ และดูแลคนที่อยู่กับเราเยอะที่สุดก็คือตัวเราเองครับ !
If you always try to please others, you’ll be ignoring your own desires.
ถ้าคุณพยายามที่จะเอาใจคนอื่น คุณกำลังเมินความต้องการของตัวเอง
6.ใช้เงินเดือนชนเดือน
เริ่มวางแผนการออม วางแผนการเงินให้กับตัวเองครับ โดยอาจจะเริ่มจากการออมก่อนใช้ทีหลัง หรือจัดสรรการลงทุน หากรายได้ไม่พอจริง ๆ เราต้องวางแผนการสร้างรายได้เพิ่มและแผนการลดค่าใช้จ่าย
เลิกคิดถึงวิธีการที่ง่ายกับเราคือ ใช้ก่อนออมทีหลังได้แล้วครับ เพราะ95% มันจะไม่เวิร์กและไม่ได้ออม เพราะมนุษย์เรามีความสามารถในการใช้เงินอยู่แล้วครับ!
7. อยู่กับอดีต
ส่วนใหญ่เรื่องที่เราคิดในแต่ละวัน มักเป็นเรื่องเดียวกับเรื่องที่เราคิดใน “เมื่อวาน” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราผิดพลาด หรือเรื่องที่เราประสบความสำเร็จ มันก็เป็นการอยู่กับอดีตทั้งนั้นครับ
“this too shall pass”
เดี่ยวสิ่งนี้มันก็จะผ่านไปเช่นกัน
จริง ๆ ผมค่อนข้างอินกับเรื่องนี้ในตอนนี้นะครับ เปรียบเหมือนการมูฟออนกับเรื่องต่าง ๆ หากเราไม่ทิ้งอดีตให้เป็นเรื่องของเมื่อวานนั้นเราก็ไม่สามารถเริ่มต้นวันนี้ได้เลย
ดังนั้นผมอยากชวนให้ทุกคนใช้ชีวิตในวันนี้ และตอนนี้ครับผม! วิธีที่อาจจะช่วยได้ สำหรับผมการจดไดอารี่เขียนความรู้สึก ณ ขณะนี้ก็ช่วยได้ดีนะครับ
“Do not dwell in the past, do not dream of the future, concentrate the mind on the present moment.”
พระพุทธเจ้า
ไม่ต้องคิดเรื่องอดีต ไม่ต้องฝันถึงอนาคต มีสมาธิสติอยู่กับปัจจุบัน
8. มองตัวเองไม่ดี
การดูถูกตัวเอง การด่าตัวเอง การไม่เชื่อในความสามารถของตัวเองเป็น นิสัยไม่ดี ที่เราควรเลิกซะเดี่ยวนี้เช่นกันครับ
“อ้วนไป”
“เตี้ยไป”
“โง่ไป”
“น่าเกลียด”
อะไรแบบนี้มันเหมือนเป็นการตอกย้ำให้ตัวเองเป็นสิ่งนั้น ๆ ครับ เพราะขนาดเรายังคิดว่าเราเป็นสิ่งนั้นเลย
หากเราคิดว่าเราเป็นแบบนั้นจริง ๆ อยากให้ชวนคุยกับตัวเองใหม่เช่น “ฉันจะรักสุขภาพตัวเองมากกว่านี้ได้อย่างไร?”
ทัศนคติ จะเปลี่ยนเป็นความคิด
ความคิด จะนำมาซึ่ง คำพูด
คำพูด นำมาซึ่งการกระทำ
การกระทำ นำมาซึ่งผลลัพธ์
ผมเชื่อแบบนี้มาโดยตลอด หากเรายังไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติได้ในทันที เราอาจจะเริ่มง่าย ๆ อย่างการเปลี่ยนคำพูดในสิ่งที่เราพูดกับตัวเองก่อนก็ได้นะครับ !
แล้วท้ายที่สุดไม่ว่าใครจะตัดสินคุณอย่างไร จะชอบหรือไม่ชอบคุณอย่างไร “จงเป็นตัวของตัวเอง”
อยากได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้ ต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ
