การให้โดยไม่ใช้เงิน สำหรับนักพัฒนาตนเอง แบบคุณ วันนี้ Bigdreamblog ชุมชนนักฝัน ได้นำ 6 วิธีง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นผู้ให้แม้ว่าคุณจะไม่มีเงินสักบาทเลยก็ตาม
Bigdreamblog ชุมชนนักฝัน นำเสนอ 6 วิธีง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นผู้ให้ แม้ว่าคุณจะไม่มีเงินสักบาทเลยก็ตาม เพราะการให้ที่ดีที่สุด ไม่ได้วัดจากจำนวนเงิน แต่วัดจาก “ใจ” ของผู้ให้
- 20 TED Talks ที่น่าจะดูตั้งแต่อายุ 20s
- 8 คำคมเปลี่ยนชีวิต
- คำคม อัปเดตใหม่ แรงบันดาลใจจัดเต็ม | สารบัญคำคม
Partnership with Normthing จัดอีเว้นท์ ที่ปรึกษาการตลาด
การให้โดยไม่ใช้เงิน
การให้โดยไม่ใช้เงิน หมายถึง การให้ที่ไม่ต้องใช้เงินเป็นสื่อกลาง แต่ใช้อย่างอื่นแทน เช่น เวลา ความรู้ ทักษะ ความสามารถ ความใส่ใจ มิตรภาพ กำลังใจ หรือสิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องซื้อ เช่น เสื้อผ้า หนังสือ ของเล่น ฯลฯ
การให้โดยไม่ใช้เงิน มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความสามารถและความสะดวกของผู้ให้ ตัวอย่างเช่น
- การอุทิศเวลา: อาสาสมัคร ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เช่น สอนหนังสือเด็กกำพร้า ดูแลผู้สูงอายุ
- การแบ่งปันความรู้: สอนหนังสือ แบ่งปันข้อมูล ความรู้ ทักษะ ผ่านบทความ วิดีโอ หรือการสอนออนไลน์
- การให้กำลังใจ: ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดให้กำลังใจ ช่วยเหลือในยามที่ผู้อื่นต้องการ
- การแบ่งปันสิ่งของ: บริจาคเสื้อผ้า หนังสือ ของเล่น
- การสร้างสรรค์: วาดภาพ แต่งเพลง เขียนบทความ เพื่อมอบความสุขให้ผู้อื่น
การให้โดยไม่ใช้เงินไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าการให้แบบใช้เงิน ผู้ให้ได้รับความสุขและความอิ่มเอมใจ
ข้อดีของการให้โดยไม่ใช้เงิน
- ไม่จำเป็นต้องมีเงิน: ทุกคนสามารถให้ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงฐานะทางการเงิน
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ช่วยให้สร้างมิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่ดี และความไว้วางใจ
- พัฒนาตัวเอง: การให้ เป็นการฝึกฝน “ใจ” ของผู้ให้ พัฒนาความเมตตา การเห็นอกเห็นใจ เสริมสร้างความเอื้ออาทร
- สร้าง impact ให้กับสังคม: การให้โดยไม่ใช้เงิน สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคม ส่งเสริมความสามัคคี และช่วยเหลือผู้อื่น
การให้โดยไม่ใช้เงิน เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ เริ่มต้นง่าย ๆ จากตัวเรา เปลี่ยน “การให้” ให้เป็นนิสัย
1. ใส่ใจ
การมอบ “ความใส่ใจ” เริ่มจากการสังเกตและสนใจในความต้องการของผู้อื่นอย่างแท้จริง แสดงความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาอย่างแท้จริง เพื่อให้การสนับสนุนและการช่วยเหลือที่เราให้มีความมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อผู้รับ ในทำนองเดียวกัน เรายินดีที่จะใช้เวลาและความพยายามในการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่คาดหวังการตอบแทนใดๆ อาจเป็นการให้คำปรึกษา การสนับสนุนทางอารมณ์ หรือการสนับสนุนทางกายภาพตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ทุกความทุ่มเทใจที่เรามอบให้ก็เป็นความทรงพลังที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและความเต็มใจให้กับผู้รับได้ในที่สุด
2. สร้างสะพาน แทนที่จะสร้างกำแพง
สะพานของความเห็นต่าง เชื่อมแต่ละความเห็นต่างเข้าด้วยกัน เราจะเห็นว่าในประเทศไทย ความคิดเห็นที่แตกต่างนั้นนำมาซึ่งปัญหามากมายเลยล่ะครับ การให้โดยการสร้างสะพานจะมีคุณค่าอย่างมากให้สังคมของพวกเราครับ
เพื่อสร้างสะพานเชื่อมต่อระหว่างความต่างหันหลัง เราต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดใจและการเรียนรู้เกี่ยวกับมุมมองที่แตกต่างของผู้อื่น โดยพร้อมที่จะเข้าใจและยอมรับความแตกต่างนั้นอย่างเต็มใจ จากนั้นเราสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์โดยไม่มีจุดประสงค์ที่จะ “เอาชนะ” ผู้อื่น
การใช้การสื่อสารและการโต้วาทีอย่างสร้างสรรค์เป็นวิธีที่ดีในการสร้างบรรยากาศการพูดคุยที่ดีบนโลกออนไลน์ เราสามารถใช้พื้นที่นี้ให้เป็นสถานที่ที่คนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวคิดได้อย่างเปิดกว้าง โดยมีความเคารพและการเข้าใจต่อกันอย่างแท้จริง เมื่อเราสร้างบรรยากาศแบบนี้ จะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่แข็งแรงและเชื่อมโยงผู้คนที่มีความแตกต่างกันอย่างมีความสุขและเต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้าใจในชุมชนออนไลน์ของเรา
3. แบ่งปันความรู้
การแบ่งปันความรู้เป็นสิ่งของมูลค่าที่สามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญอย่างมาก โดยเราสามารถทำได้โดยการแบ่งปันความรู้ทั้งทักษะและประสบการณ์ที่เรามี เราสามารถสอนสิ่งที่เราเรียนรู้ผ่านทางบทความ วิดีโอ หรือการสอนออนไลน์ เพื่อให้ผู้คนมีโอกาสได้รับความรู้และเข้าใจเพิ่มเติมในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ เรายังสามารถแบ่งปันความรู้ผ่านการสนทนาและการพูดคุย โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้มุมมอง และประสบการณ์กับผู้อื่นในชุมชน การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะของผู้อื่น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงที่แข็งแรงขึ้นในชุมชนของเราด้วย ด้วยการแบ่งปันความรู้อย่างเปิดเผยและกระตือรือร้น เราสามารถสร้างอินทรีย์ที่ทำให้โลกเราดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
4. ให้โอกาส – Connect people
คอนเนคผู้คนเข้าด้วยกัน เชื่อมโยงผู้คนเพื่อสร้างพลังใจที่กว้างขวางและสร้างโอกาสให้กันและกัน โดยการแนะนำคนรู้จักหรือเพื่อน หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในสายงานเดียวกัน เราสามารถช่วยให้ผู้คนที่มีความสนใจคล้ายกันมีโอกาสพบกันและเชื่อมโยงกันได้ เราสามารถสนับสนุนในการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดีโดยการเปิดโอกาสให้ผู้คนมีโอกาสพบปะ
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ ซึ่งการเชื่อมโยงกันอย่างเชิงบวกจะช่วยสร้างพลังแห่งความรู้สึกของสังคมและส่งเสริมความเชื่อมั่นและความสำเร็จในชีวิตของผู้คนในระยะยาว
5. ต้อนรับใครสักคนหนึ่ง
เมื่อเราต้องการมอบ “น้ำใจ” ผ่านการต้อนรับผู้อื่น เราสามารถทำได้โดยการเชิญชวนเพื่อนหรือคนรู้จักมาทานอาหาร หรือทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างบรรยากาศของความสุขและการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ เรายังสามารถแบ่งปันสิ่งของ เช่น อาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อแสดงถึงความเอื้อเฟื้อและความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการมอบการต้อนรับที่อบอุ่นและยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อให้ผู้รับรู้สึกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่และมีความสุขในเวลาที่ท่านอยู่ใกล้ๆกับเรา
6. มอบประสบการณ์แห่งความสุข
เมื่อเราต้องการสร้าง “มนต์ขลัง” เพื่อมอบของขวัญแห่งความสุขให้ผู้อื่น เราสามารถทำได้โดยการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ ผลงาน หรือความสามารถของเรา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและความกระตือรือร้นต่อผู้รับ เรายังสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะ ดนตรี บทกวี หรือสิ่งสวยงามเพื่อให้ความประทับใจและความสุขให้กับผู้รับ ที่สำคัญคือการร่วมสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม เพื่อให้ผู้รับรู้สึกถึงความอบอุ่นและมีความสุขในสถานการณ์ที่เราสร้างขึ้น
สรุป
การให้โดยไม่ใช้เงินเป็นกระบวนการที่สามารถทำได้หลายวิธี โดยเราสามารถให้โดยเสนอความร่วมมือและความเข้าใจต่อผู้อื่น และการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ เพื่อสนับสนุนและช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ นอกจากนี้เรายังสามารถให้ความสนับสนุนและแรงกำลังให้กับผู้อื่นในช่วงเวลาที่ท้าทายได้ด้วย
ไม่เสียเวลากับการเขียนเช็ค เพราะคุณสามารถเป็นคนที่ให้ใจกว้างได้โดยใช้เวลาและความใส่ใจแทน ตัวอย่างหนึ่งของความใจกว้างที่น่าทึ่งและมีผลส่งเสริม คือการมอบความเข้าใจและการสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งสามารถทำได้โดยทุกคนที่มีความตั้งใจและความกระตือรือร้นในการช่วยเหลือผู้อื่น