The Hunger Games | The Ballad of Songbirds & Snakes (2023) ดู แล้วมา รีวิว

Reading Time: 3 minutes
Reader Rating1 Vote
5.8
9.2
9

Hunger Games 2023 | มีชื่อว่า The Ballad of Songbirds & Snakes ผมดูเรียบร้อยแล้วถือให้เป็นหนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2023 ที่ผมได้ดูมาทั้งหมดเลยครับ ระยะเวลาของภาพยนตร์หนังยาวประมาณหนึ่ง แต่การดำเนินเรื่องมีเทคนิคที่ไม่ทำให้หนังตาย วันนี้เราจะมารีวิวเรื่องนี้กันครับ

เรื่องย่อ The ballad of songbirds & Snakes

ย้อนกลับไปที่การแข่งขันเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 สโนว์ (Tom Blyth) เป็นนักเรียนระดับท็อปที่คาดหวังทุนในการศึกษาต่อแต่สถานการณ์ที่บ้านของตนนั้นไม่เอื้ออำนวย ในขณะนั้นเองที่เขาทำตามกระบวนการเพื่อให้ได้รับทุนการศึกษานั้น 

ระบบก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (แต่มหาศาล) คือการที่ให้นักเรียนที่มีความสามารถพอที่จะได้รับทุนการศึกษานั้น ต้องไปเป็นผู้ดูแลเหล่า บรรณาการ (Tribute) ซึ่งสโนว์เองก็ต้องเป็นผู้ดูแลเช่นเดียวกัน และเขตที่สโนว์ ได้ดูแลคือเขต 12 แต่การดูแลนั้นเป็นการดูแลแบบ 1 ต่อ 1 Tribute 1 คน Mentor 1 คนและคนที่ Snow ได้เป็น Mentor คือ Lucy Gray Baird (Rachel Zegler) จากเขตกำลังพัฒนาที่ 12 

The Hunger Games 2023 รีวิว

เกมล่าเกม ครั้งที่ 10 ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอนาคตของ เกมนี้ไปโดยสิ้นเชิง และเป็นปีที่ทำให้ The Hunger Games ยาวนานมาได้เกือบ 100 ครั้ง ก่อนจะล่มในครั้งที่ 75 ในที่สุด เพราะปีที่ 10 นั้นมีการเปลี่ยนรูปแบบเกมให้กลายเป็นแบบ ทุนนิยม เกมโชว์มากยิ่งขึ้น ทำให้มีฐานคนดูเพิ่มมากขึ้นก่อนที่เกมนั้นจะเลิกไป 

โดยปัจจัยสำคัญนั่นก็คือ นักศึกษาดาวเด่นอย่าง สโนว์นี่แหละ ที่เป็นคนเขียนข้อเสนอไปยัง Dr. Volumnia Gaul (Viola Davis) ผู้คุมเกม ณ ขณะนั้น ให้ผู้ชมสามารถ เป็น Sponsor และ Mentor สามารถส่งของต่าง ๆ ให้กับ Tribute ได้

การดำเนินเรื่องยาวให้ไม่น่าเบื่อ

การทำภาพยนตร์ที่ยาวประมาณนี้ให้ไม่น่าเบื่อถือเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เรื่องนี้สามารถทำได้ ซึ่งทำได้โดยตลอดใน ฮังเกอร์เกม ทุกภาค แต่เรื่องนี้มีความแตกต่าง คือการที่หนังเอาจุดที่มีความสามารถจะเป็นไครแม็ก ของเรื่อง เอาวางไว้ 2 จุดสำคัญ

  • จุดแรกคือจุดที่เป็นการแข่งขัน ที่ผู้ชมอยากจะรู้ว่า Lucy Grey ชนะในการแข่งขัน Hunger game ครั้งที่ 10 ได้อย่างไร
  • จุดที่สองคือจุดที่ Snow พ่อหนุ่มแสนดี กลายเป็น Snow ที่เรารู้จักใน Catching fire ที่โดนปฎิวัติได้อย่างไร

ประเด็นแรกของจุดหักเหของเรื่อง The Hunger Games

ตัวเรื่องให้น้ำหนักไปกับ การที่ทำให้คนดูลุ้นและรัก Lucy Grey 

โดยให้เห็นภูมิหลังของ Snow และโจทย์ใหญ่ว่า จะทำให้ Lucy Grey ไว้วางใจได้อย่างไร เพราะเปิดตัว Grey ด้วยท่าทีที่เหมือน หมาบ้า ที่มีบาดแผลเยอะ ไว้วางใจคนยาก พ่อหนุ่มหน้ามนจะชนะใจได้ไหม? อันนี้คือเป็นจุดที่ทำให้คนดูได้ลุ้นตามและอยากเอาใจช่วย 

ประเด็นนี้เป็นประเด็นแรกที่ทำให้เราเห็นว่า จิตใจของลูซี่ เกรย์ ไม่ได้แข็งกระด้างขนาดนั้น เป็นเพียงผู้หญิงที่มีความรักหลงไหลในเสียงเพลง และต้องเสแสร้งทำเป็นแข็งกระด้างจากสถานการณ์ที่ตนได้เจอ เพราะ สโนว์ เอาใจเพียงไม่กี่ครั้งก็ชนะใจเธอได้แล้ว แต่ถือว่าได้เห็นความฉลาดของสโนว์ในการทำการบ้านนี้ด้วย

ประเด็นนี้สามารถเปรียบเทียบตัว Lucy กับ Katniss Everdeen พอได้อยู่บ้างตรงที่เธอมาจากเขตเดียวกันมีสภาพจิตใจที่คล้ายคลึงกันแต่แตกต่างกันตรงที่สถานการณ์โดยรอบและความพัฒนาไปของเกม The hunger games จุดนั้น แคตนิส ต้องการชนะ จึงยอมเปิดใจให้ Haymitch Abernathy

 แต่ ลูซี ต้องการให้ Snow ผู้เป็น mentor ขณะนั้น เชื่อว่าเธอสามารถเป็นผู้ชนะได้ แต่จุดแห่งการไว้วางใจเป็นจุดที่ Snow นั้นค่อย ๆ สั่งสมมาแต่แรก

The Hunger games 2023 รีวิว katniss and lucy grey

ประเด็นที่สอง 

จุดที่ Snow กลายเป็น President Snow เป็นอีกหนึ่งจุดไครแมคของเรื่อง ภาพยนตร์เล่นไปกับเรื่องของ “ความไว้วางใจ” ที่ต่างฝ่ายต่างได้รับ และ ได้ให้ ซึ่งกันและกัน 

โดยความไว้วางใจ เป็นประเด็นที่ภาพยนตร์สั่งสมมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น และค่อย ๆ ส่งเสริมประเด็นนี้ให้แข็งแรงขึ้นเรายิ่งเห็นได้ว่า ความไว้วางใจนั้นไม่ได้ใช้เวลาประเดี๋ยวประด๊าว แต่การพังลงนั้นใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที และไม่ต้องเข้มข้นเหมือนการสร้างก็ได้ เพียงแค่สงสัยใจความไว้วางใจ ความไว้วางใจนั้นก็ได้พังไปเรียบร้อยแล้ว

ความสัมพันของทั้งคู่ขาดกันตั้งแต่ตอนไหน?

หากผู้ชมที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เราต่างรู้กันดีอยู่ว่า สโนว์และลูซี่เกรย์มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของกันและกัน 

แต่มันทำลายได้จากประเด็นความสงสัยว่า สโนว์โกหกลูซี่หรือไม่? หรือ จุดที่ภาพยนตร์ จงใจ ทำให้เราสงสัยว่า สโนว์จะหักหลังลูซี่หรือไม่

ณ จุดนั้นเราไม่สามารถเห็นเจตนาที่แท้จริงของ สโนว์ได้ แต่ภาพยนตร์ได้จุดไฟแห่งความกลัวต่อสโนว์ไปยังลูซี่เกรย์และผู้ชมทุกคน ทั้งที่ความเป็นจริงในใจสโนว์นั้นอาจไม่ได้คิดอะไรเลย และเขายังมีพฤติการณ์ที่บ่งบอกว่าเขาแค่จะเอาปืนไปทิ้งหลังจากนั้น แต่เมื่อจิตนาการแห่งความกลัวเกิดขึ้นในใจ

คำพูดของกันและกันที่พูดว่า “หากคนที่คุณจะเชื่อใจได้มีเพียงคนเดียว กันและกันคือคนคนนั้น” นั่นคือบริบทของทั้งคู่ที่พูดคุยกันในที่ที่เกิดเหตุการณ์ทะลายความเชื่อใจกัน 

ผมมองว่าการวางพล็อต และเรื่องราวต่าง ๆ ให้มาบรรจบกันแบบนี้คือความไร้ที่ติของการเล่าเรื่อง

จุดที่ขาดกันจริง ๆ ของทั้งคู่คือจังหวะที่ ลูซี่ คืนผ้าพันคอ ของสโนว์ที่เป็นของแม่เขาที่ให้ไว้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความไว้วางใจใครสักคนหนึ่งขั้นสูงสุด ภายใต้ผ้าพันคอนั้นคือ งู ที่หันมาชกเขาในท้ายที่สุด 

เปรียบเหมือนสำนวนไทยง่าย ๆ คือชาวนากับงูเห่า งูคือสัญญลักษณ์แห่งการไม่รู้จักบุญคุณในเรื่องและแว้งกัดคนที่เลี้ยงดูมันมา

ต่างกันกับ ลูซี่เพียงเพราะ ความกลัวในจิตใจว่าจะโดนทำร้ายโดยสโนว์ เลยแว้งกัดเพื่อเอาตัวรอดในที่สุด และจุดที่สโนว์ขาดกับลูซีคือจังหวะที่เล็งปินและยิงไปยังภาพที่เห็นลูซี่วิ่งไป จุดนั้นทำให้เรารู้เลยว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ พังแบบ 100% เรียบร้อยแล้ว

ภายในจิตใจของสโนว์จึงเกิดความแค้น และกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเกมล่าเกม หรือ The Hunger game ในที่สุด

คนที่เรารักที่สุด เป็นคนที่ทำร้ายเราได้ดีที่สุด

คำคม Coriolanus Snow

“คนที่เรารักที่สุด เป็นคนที่ทำร้ายเราได้ดีที่สุด” จึงเป็นสิ่งที่สโนว์ได้เรียนรู้และหักเหมาเป็น President Snow ในท้ายที่สุด

และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ของสโนว์อีกเรื่องก็คือการบริหารความหวังในสังคมที่นำมาพูดกับ Seneca Crane ใน The Hunger Games ภาคแรกอีกด้วย

ตัดเกรดหนัง

เรื่องนี้จากที่วิเคราะห์และรีวิวก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่า ออกเชิงแนว Positive เป็นส่วนใหญ่ เพราะหนังทำออกมาได้ดีจริง ๆ การที่ผมจะบอกว่าประเด็นมันไม่เข้มข้นก็พูดได้ยาก สำหรับผมเองยังมองว่าเนื้อเรื่องมันยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ แต่มองในมุมกว้าง ที่ภาพยนตร์ต้องทำให้ง่ายต่อความเข้าใจในทุกกลุ่มคน ถือว่าทำออกมาได้ดีแล้ว เพราะเป็นหนังที่ค่อนข้างจะ Mass ผมให้หนังเรื่องนี้ 8.9-9.3 คะแนนไปเลย หักเรื่องพวกความเข้มข้นของ layer ของบทแค่นั้นเอง แต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร เพราะแค่นี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ดีสุด ๆ แล้ว

นักแสดง

นักแสดงทุกคนในเรื่องนี้โดยเฉพาะลูซี่ เกรย์ เหมาะสมเหมาะเป็นที่รัก และน่าหลงไหลในเสน่ห์ของเธอมาก ส่วนตัวประกอบอื่น ๆ อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี-ดีมาก

เพลงประกอบ

ส่วนเพลงประกอบ ต้องบอกว่าไร้ที่ติเลยละกัน เหตุผลเพราะว่า ผู้ที่ร้องเพลงประกอบคือ Olivia Rodrigo สาวเสียงทรงพลังคนโปรดของผมนั่นเอง

โดยสรุปบทความโดยย่อจาก AI 

บทความนี้เป็นรีวิวของภาพยนตร์ “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes” ที่ปี 2023 โดยผู้เขียนรีวิวได้รับความประทับใจและให้คะแนนสูง เขาเรียกว่านี้เป็นหนังที่ดีที่สุดของปี 2023 ที่เขาได้รับชม โดยเนื้อหาของภาพยนตร์นี้นำเราไปสู่การแข่งขัน Hunger Games ครั้งที่ 10 และเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการแข่งขันนี้ ทำให้มีการโชว์มากขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงในระบบการดูแล Tributes เป็น Mentors ในการแข่งขัน 

นอกจากนี้ รีวิวยกย่อหนึ่งเรื่องย่อเกี่ยวกับการเล่าเรื่องยาวให้ไม่น่าเบื่อของภาพยนตร์นี้ นอกจากนี้ยังวิจารณ์ว่านักแสดงทุกคนแสดงบทได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะลูซี่ เกรย์ ที่ถูกพิสูจน์ว่ามีความแตกต่างจากตัวละครใน Hunger Games ที่ก่อนหน้านี้ สรุปว่าหนังนี้ทำออกมาได้ดีและได้คะแนนรวมเป็น 8.9-9.3 คะแนน

โดยถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้าง Mass และมีความสนุกสนาน ผู้เขียนยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูซี่ เกรย์ และ President Snow ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างน่าสนใจ และเนื้อหาที่ทำให้ผู้ชมต้องการทราบว่าลูซี่ชนะการแข่งขัน Hunger Games ครั้งที่ 10 ได้อย่างไร และ President Snow กลายเป็นตัวละครที่รู้จักใน Hunger Games ในภาคต่อๆ มาได้อย่างไร ในทางกลับกัน รีวิวก็ระบุว่ามีประเด็นที่ขาดคือจุดที่ความสัมพันธ์ระหว่างลูซี่ เกรย์ และ President Snow ไม่ชัดเจนพอ และมีจุดที่น่าสงสัยว่าสโนว์โกหกลูซี่หรือไม่

ในส่วนของนักแสดง นักแสดงทุกคนได้รับความประทับใจ โดยเฉพาะลูซี่ เกรย์ ที่ถูกบอกว่าเหมาะสมและน่าหลงไหล สรุปว่าหนังนี้ค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นที่ชื่นชมจากผู้เขียนรีวิว

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้

จากบทความนี้เราได้เรียนรู้หลายประการหลายอย่างเกี่ยวกับภาพยนตร์ “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes (2023)” และการรีวิวที่เป็นไปในบทความนี้:

เนื้อหาภาพยนตร์: ได้รับภาพรวมของเนื้อหาภาพยนตร์ “The Ballad of Songbirds & Snakes” ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบและเนื้อหาของ Hunger Games ครั้งที่ 10 และการเปลี่ยนแปลงในระบบการแข่งขัน

การวิจารณ์ภาพยนตร์: ได้รับความรู้เกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้รีวิวต่อภาพยนตร์ วิจารณ์เกี่ยวกับการแสดงของนักแสดง เรื่องราว และพล็อต

ตัวละคร: ได้พิจารณาเปรียบเทียบตัวละครหลัก ๆ ในภาพยนตร์ เฉพาะลูซี่ เกรย์ และ President Snow และสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงและความเสียหายในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา

ความสำคัญของความไว้วางใจ: เน้นที่ความสำคัญของความไว้วางใจในเรื่องราว รวมถึงการสร้างความไว้วางใจและการทำลายความไว้วางใจในภาพยนตร์

การจัดหน้าเนื้อหา: สังเกตว่าการจัดหน้าเนื้อหาของภาพยนตร์ถูกวิจารณ์ว่าทำได้ดีและไม่น่าเบื่อ และการจัดเรียงเนื้อหาส่งเสริมประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูล

คะแนนและการประเมินทั่วไป: ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการให้คะแนนรวมของผู้รีวิวและการประเมินว่าหนังนี้มีความสนุกสนานและคุ้มค่าดูหรือไม่

รวมทั้งบทความนี้ช่วยให้เราได้ภาพรวมถึงประสบการณ์การรับชมของผู้รีวิวและวิเคราะห์ประเด็นที่น่าสนใจในภาพยนตร์นี้

The Hunger Games | The Ballad of Songbirds & Snakes (2023) ดู แล้วมา รีวิว
The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes (2023)
จากบทความนี้เราได้เรียนรู้หลายประการหลายอย่างเกี่ยวกับภาพยนตร์ "The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes (2023)"
เนื้อหาภาพยนตร์
9.5
CGI
8
ตัวละคร
9
ความสนุก
9.5
เพลงประกอบ
10
Reader Rating1 Vote
5.8
9.2
9
karnnikro
karnnikrohttps://www.karnnikro.com
MD of NIKRO GROUP CO.,LTD. และบรรณาธิการบริหาร BIGDREAMBLOG | License holder TEDxBangKhunThian | อดีตที่ปรึกษาประธาน กมธ พัฒนาการเมืองฯ | อดีตรองผู้อำนวยการมติชนอีเว้น | Entrepreneurship Degree & Law School | อยากได้สิ่งที่ไม่เคยได้ต้องทำสิ่งที่ไม่เคยทำ | รักแมววว

Similar Articles

Comments

Leave a Reply

Instagram

ที่ปรึกษาการตลาด / จัดอีเว้นท์ / ที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจ | ปรึกษา | กฎหมาย | ธุรกิจ การตลาด อีเวนต์

Most Popular

จากบทความนี้เราได้เรียนรู้หลายประการหลายอย่างเกี่ยวกับภาพยนตร์ "The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes (2023)" The Hunger Games | The Ballad of Songbirds & Snakes (2023) ดู แล้วมา รีวิว