อ่านหนังสือ เป็นสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนอยากทำให้ได้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ อ่านยังให้ทะลายกองดองที่มีได้ วันนี้ผมไปเจอบทความหนึ่งบทมีเดี้ยมพออ่านแล้วก็ได้ไอเดียมาแชร์ให้ฟังกันครับ
อ่านหนังสือ เป็นสุนทรียะอย่างหนึ่งของคนรักการเรียนรู้
อันดับแรกสุดเลยต้องบอกก่อนเลยว่า การอ่านหนังสือ ให้เร็ว หรือช้ามันขึ้นอยู่กับแต่ละคนอยู่ที่ว่าคุณอยากอ่านมันเร็วหรือช้า สำหรับบางคนการอ่านเป็นความสุขอย่างหนึ่ง การอ่านแบบเพลิดเพลินย่อมไม่ใช่ปัญหาของคนกลุ่มนี้
แต่สำหรับบางคนอยากรู้เรื่องในหนังสือให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะฉลาดขึ้น หรือฝึกทักษะใหม่ ๆ รวมกระทั่ง การนำไปสอบด้วยการ อ่านหนังสือ ให้เร็วย่อมมีประโยชน์มากกว่า
มีหลายครั้งนะครับที่ผมเองก็อยากมีพลังวิเศษเหมือนกับด็อกเตอร์เสตรน ที่ขณะหลับก็ถอดจิตของตัวเองมาอ่านหนังสือได้ มันเป็นพลังวิเศษอย่างเดียวที่ผมอยากได้จากเขาเลยล่ะ
ค่าเฉลี่ยความเร็วของการอ่านหนังสือ
คนทั่ว ๆ ไปที่อ่านหนังสือด้วยความเพลิดเพลิน ความเร็วการอ่านหนังสือของผู้ที่บรรลุนิติภาวะจะอยู่ที่ 300 คำต่อนาที จากงานวิจัยในหนังสือ Staples ซึ่งเขียนไว้ถึงสถิติการอ่านอย่างอื่น ๆ อีกด้วย
- เด็กมัธยมต้น จะอ่านความเร็ว 150 คำต่อนาที
- เด็กมัธยมปลาย จะอ่านความเร็ว 250 คำต่อนาที
- เด็กมหาวิทยาลัยทั่วไป จะอ่านความเร็ว 450 คำต่อนาที
- คนที่ได้คะแนนสอบมากกว่าค่าเฉลี่ยจะอ่านความเร็ว 575 คำต่อนาที
- ค่าเฉลี่ยของคนที่เป็นศาสตราจารย์ จะอ่านที่ความเร็ว 675 คำต่อนาที
- คนที่อ่านหนังสือเร็วจะอยู่ที่ความเร็ว 1,500 คำต่อนาที
- แชมป์ในการอ่านหนังสือเร็วเขาอ่านที่ 4,700 คำต่อนาที (เหนือมนุษย์)
ถ้าดูจากสถิติ เราจะเห็นว่าความเร็วค่อนข้างมีความแตกต่างกัน แต่หากคุณอยากมีทักษะในการอ่านเร็ว มันก็สามารถฝึกกันได้เช่นเดียวกัน ซึ่งคำแนะนำแรก ๆ ก็คือ ให้อ่านบ่อย ๆ เป็นคำแนะนำแรกเริ่มสุด
วอร์มอัพการอ่าน
โดยปรกติของบทความต่าง ๆ บทอินเทอร์เน็ต จำนวนคำจะอยู่ที่ 300-1,000 คำโดยเฉลี่ย ยาวสั้นตามรูปแบบของ แนวทางแต่ละเว็บไซต์และแหล่งที่มา
ซึ่งให้เราเริ่มจากบทความที่เราชอบโดยปรกติถ้าเราอ่านด้วยความเร็วค่าเฉลี่ยเราจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง สำหรับการอ่าน 30 บทความ ซึ่งเราก็สามารถเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ได้ทั้งหมด 30 เรื่องหากคุณให้เวลากับมัน ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ คุณสามารถรู้เพิ่มขึ้น 30 เรื่องในเวลา ไม่ถึง 1 ชั่วโมง
วิธีทดสอบว่าตัวเองอ่านเร็วแค่ไหน
- จับเวลา 1 นาที
คุณสามารถเริ่มจากสิ่งนี้เพื่อ ทดสอบว่าเราอ่านเร็วแค่ไหนกัน โดยนับเวลาถอยหลัง 1 นาที - เลือกหนังสือที่คุณอ่านโดยปรกติ
การเลือกหนังสือมีความสำคัญตรงที่เราได้อยู่กับพื้นฐานการอ่านของเราจริง ๆ อย่าเลือกอะไรที่เราไม่คุ้นชินในการอ่าน เช่นพวกหนังสือ ดิกชั่นนารี่ มันมีความยากในการอ่านอยู่ - อ่าน
หลังจากเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาอ่านของเราแล้วล่ะครับ ตรงนี้ให้อ่านด้วยความเร็วปรกติของคุณไม่ต้องดูเวลาไม่ต้องเร่งไม่ต้องรีบร้อน - นับคำ
สุดท้ายคือเมื่อเสียงนาฬิกาที่จับเวลาดังขึ้นก็มานับคำดูว่า ในหนึ่งนาทีคุณอ่านไปแล้วกี่คำ นั้นคือความเร็วของคุณ
ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ คือลองนับบรรทัดที่อ่านในหนึ่งนาที แล้วนับจำนวนคำที่บรรทัดแรกมี แล้วหารด้วยจำนวนบรรทัดที่คุณอ่านจะได้ค่าเฉลี่ยของความเร็วของคุณ
อ่านเร็วขึ้นด้วยเทคนิคเหล่านี้
มาถึงขั้นตอนที่เราจะพัฒนาทักษะการอ่านของคุณให้เร็วขึ้นแล้วนะครับ ซึ่งสามารถทำตามแนวทางตามนี้ได้เพื่อให้คุณอ่านได้เร็วขึ้น โดยเริ่มจาก
สำรวจโครงเรื่องของหนังสือ
อันดับแรกเราต้องเข้าใจว่าในหนังสือที่เรากำลังจะอ่านมีโครงเรื่องอย่างไรโดยสามารถสำรวจได้โดยการจับหมวดหมู่ของหนังสือ ว่าการเริ่มเรื่องของเล่มเป็นอย่างไร เนื้อหาของเล่มจะประมาณไหน และบทสรุปของเล่มจะสื่ออะไร
อ่านสารบัญ
การอ่านสารบัญจะทำให้เราเห็นภาพรวมของหนังสือว่า ทั้งเล่มนี้กล่าวถึงอะไรบ้างโดยละเอียดมากขึ้น จากการจับรวมหมวดหมู่ในขั้นตอนที่แล้ว
อ่านคำนำ
การอ่านคำนำเป็นการทำให้เข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงอะไรโดยเป็นการเปิดเรื่อง โดยทั่วไปแล้วมันจะมีส่วนที่ประกอบในคำนำคือ โดยภาพรวมหนังสือ สิ่งที่จะได้จากหนังสือเล่มนี้ และสรุปหนังสือไปในตัว
กำหนดเป้าหมายของการอ่าน
เราต้องรู้ก่อนว่า เราจะอ่านหนังสือเล่มนี้ไปทำไม ซึ่งมันมีแนวทางในการอ่านอยู่จากหนังสือ How to read a book ของ Mortimer Adler ให้คำแนะนำถึงการจำแนกการอ่านไว้ 4 จุดประสงค์ด้วยกัน
- การอ่านเพื่อรับรู้เบื้องต้น
- อ่านเพื่อตรวจสอบบางสิ่งบางอย่าง
- อ่านเพื่อวิเคราะห์
- อ่านเพื่อสรุป
ลองดูว่าจุดประสงค์ในการอ่านคืออะไร แล้วโฟกัสไปที่จุดประสงค์นั้นของคุณ
กำหนดเวลา
หากเราจะต้องการอ่านหนังสือทั้งเล่มให้ได้ในเวลาที่เรากำหนดไว้ ลองเอามาหารเฉลี่ยดูว่า ทั้งเล่มนี้มีกี่บท แล้วเราต้องอ่านหนังสือบทละกี่นาที ในกรณีที่แบ่งเป็นบท อาจจะทำให้เวลาในการอ่านคลาดเคลื่อนได้เพราะว่าความยาวของแต่ละบทนั้นไม่เท่ากัน หากลองหารแล้วเรามาคำนวณก็ได้ว่าเราต้องอ่าน 10 หน้าภายในระยะเวลากี่นาที นั้นเองครับ
จากนั้นก็รักษาความเร็วในระยะเวลาที่เรากำหนดไว้
สรุปแล้ว
ซึ่งการ อ่านหนังสือ ให้เร็วขึ้นนั้นโครงสร้างพื้นฐานของทักษะเราต้องแข็งแรง และเทคนิคที่นำเสนอข้างต้น สามารถช่วยได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน
หากคุณมีเทคนิคที่เหนือจากนี้สามารถคอมเมนต์บอกเราได้ และหากใครลองแล้วผลเป็นอย่างไรมาแชร์กันได้ครับ